ส่งเสริมนวดแผนไทยสไตล์ลานนาและนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไยก้าวไกล สู่สากล

0
323
image_pdfimage_printPrint

การนวดแผนไทย หรือ นวดแผนโบราณ เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการยืดเส้น และการกดจุด ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ “นวดแผนโบราณ” โดยมีหลักฐานว่านวดแผนไทยนั้นมีประวัติมาจากประเทศอินเดีย และ มีการนำเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นได้ถูกพัฒนาให้เข้ากันกับวัฒนธรรมของสังคมไทยจนเป็นรูปแบบแผนที่เป็นมาตรฐานของไทย  ปัจจุบันการนวดแผนไทยนั้นได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนช่วยกันผลักดันและยกระดับศาสตร์การนวดแผนไทยให้มีความโดดเด่น                     มีศักยภาพ และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ 

อาจารย์ดวงสมร  ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนวดเพื่อสุขภาพ  จังหวัดเชียงใหม่ และกรรมการบริหารสมาคมส่งเสริมบริการสุขภาพเชียงใหม่   กล่าวว่า “การนวดแผนไทยมีประโยชน์หลายด้าน ช่วยให้กล้ามเนื้อ  เส้นเอ็น  พังผืด  ยืดผ่อนคลาย  ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ  การเคลื่อนไหวของร่างกายสะดวกขึ้น  การไหลเวียนของโลหิตขยายทำให้ร่างกายสดชื่น  เสริมสร้างการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย  กระตุ้นระบบประสาท มีความตื่นตัวในการทำงานและที่สำคัญช่วยยืดอายุการทำงานของข้อต่อกระดูกในการเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว  ทำให้จิตใจของเราดีขึ้นตาม และเมื่อมีการนำนวดแผนไทยมาผสานเข้ากับครีมนวดของไทยที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมล็ดลำไย ยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และทำให้เกิดความเชื่อมั่นที่จะช่วยกันผลักดันนวัตกรรมธรรมชาติบำบัดนี้ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น  ซึ่งนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไยนี้เป็นผลงานวิจัยดีเด่นของคนไทยที่คิดค้นโดย ศ.ดร.อุษณีย์  วินิจเขตคำนวณ”

โดยที่ผ่านมาสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร  (องค์การมหาชน)  หรือสวก.ได้ให้ทุนสนับสนุนนักวิจัยไทยดีเด่น ศ.ดร.อุษณีย์  วินิจเขตคำนวณ  อาจารย์คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่                    ผู้ค้นคว้าวิจัยนำผลไม้เศรษฐกิจของภาคเหนืออย่างลำไยมาพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์  โดยมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณค่าของพืชสมุนไพรผลไม้ไทยให้โดดเด่นไม่แพ้สมุนไพรของต่างชาติ และที่สำคัญยังมีส่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยของไทยด้วย ทั้งนี้จากผลการวิจัยพัฒนาพบว่าในเมล็ดลำไยนั้น            มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันขบวนการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และยังยับยั้งเอนไซม์แมทริกซ์เมทัลโลโปรทีเนสที่สลายกล้ามเนื้อคอลลาเจนและอิลาสตินรวมทั้งช่วยยืดอายุกระดูกอ่อนและกล้ามเนื้อไม่ให้เกิดการสึกหรอก่อนเวลาอันควร  เมื่อนำสารสกัดเมล็ดลำไยมาพัฒนาร่วมกับว่านสมุนไพรไทยล้านนากว่า  12  ชนิด และสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นครีมนวดสกัดจากเมล็ดลำไย  ซึ่งได้รับรางวัลการันตีคุณภาพนวัตกรรมดีเด่นจากคณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ปี พ.ศ.  2552 และรางวัลนวัตกรยอดเยี่ยมจาก CBS จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2554

และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้งานวิจัยของคนไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก  หน่วยงานภาครัฐและเอกชนยังเตรียมผลักดันนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไย และนวดแผนไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ในเบื้องต้นนั้นได้รับการตอบรับจากกลุ่มธุรกิจชาวต่างชาติ โดยจะนำการนวดแผนไทยและนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไยออกไปเผยแพร่ในหลายประเทศ  อาทิ  สิงคโปร์  จีน  ฮ่องกง  เวียดนาม  ออสเตรเลีย  อังกฤษ  และอเมริกา  ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศไทยที่จะได้แสดงศักยภาพของการนวดแผนไทยในระดับโลก  และถือเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะทำให้เยาวชนหรือนักคิดนักวิจัยรุ่นใหม่ตะหนักถึงความสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน วิจัยดีๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่อไป  ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  090-672 6498, 090-672 8930, 084-399 9299  ในวันและเวลาราชการ