ไบโอคอส กรุ๊ป เผยปรับแผนและโครงสร้างขยายธุรกิจใหม่ไปได้สวยนำแนวคิดการให้บริการด้านความงามครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม และให้บริการที่ครบวงจร ดันรายรับปี 2555 โตกว่า 700 ล้านบาทเตรียมเดินหน้ารุกตลาดปี 2556 ด้วยการขยายไลน์ธุรกิจความงามสู่กลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมและเปิดแบรนด์ใหม่ รองรับความต้องการลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นเตรียมขยายสาขาธุรกิจเดิมของสลิมมิ่งพลัส ครบ 30 สาขาทั่วประเทศ พร้อมบุกตลาดความงามในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ลาว-เวียดนาม-พม่าตั้งเป้าเติบโตเพิ่ม 30% หรือสร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทและมุ่งเป็นเจ้าตลาดสุขภาพและความงามครบวงจรในอีก 3 ปีข้างหน้า
คุณสิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บริษัทฯ ได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจและโครงสร้างการบริหารจัดการธุรกิจใหม่ เมื่อกลางปี ที่ผ่านมา โดยให้บริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้นำและบริหารจัดการธุรกิจด้านสุขภาพและความงามให้กับธุรกิจในเครือ อันได้แก่ สลิมมิ่งพลัส, ไบโอคอส โปรเฟสชั่นแนล และกลุ่มธุรกิจใหม่ ที่จะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องในปีหน้า อาทิ อาเมทิส บอดี้ แอนด์ บิวตี้ คลับ คลับสุขภาพและความงามสำหรับลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม รวมถึง แบรนด์ใหม่ๆ เพื่อรองรับบริการด้านความงามสำหรับลูกค้าทั่วไป ตามแผนการบริหารจัดการเชิงรุกธุรกิจใหม่ ที่รองรับการขยายธุรกิจด้านสุขภาพและความงามครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ รองรับทุกกลุ่มลูกค้า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ค่อนข้างมาก โดยคาดว่าในปี 2555 นี้มีรายได้รวมกว่า 700 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ส่วนแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556 หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าบริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป จำกัดสามารถสร้างรายรับได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีจะสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจความงามครบวงจรอย่างแน่นอน
“ปัจจุบันตลาดธุรกิจความงามในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.5 – 2 หมื่นล้านบาทและ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 10 โดยแบ่งย่อยเป็นธุรกิจคลินิกและศัลยกรรมธุรกิจสปา ธุรกิจให้บริการความงามครบวงจร ธุรกิจให้บริการความงามเฉพาะด้าน ในขณะเดียวกันธุรกิจความงามก็มีการ
แข่งขันค่อนข้างสูง ดังนั้นการวางกลยุทธ์การตลาดและการกำหนดทิศทางการรุกธุรกิจให้ชัดเจน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดย ไบโอคอส กรุ๊ป วางแผนขยายสาขาในส่วนของสลิมมิ่งพลัส ทั้งในกรุงเทพ และหัวเมืองสำคัญจาก ปี 2555 มีจำนวน 23 สาขา เป็นจำนวน 30 สาขาในปีหน้านอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายสาขาไปยังประเทศ เพื่อนบ้านอาทิ ลาว เวียดนามและพม่าด้วยเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งคาดในภาพรวมธุรกิจของสลิมมิ่งพลัส จะสร้างสัดส่วนในการสร้างรายได้ถึง ร้อยละ 50 ของกลุ่มไบโอคอส กรุ๊ป” คุณสิเรียม กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ไบโอคอส กรุ๊ป ยังได้มีการเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจจากประเทศฝรั่งเศส แบรนด์อัลโกเธิร์ม (Algotherm) ที่จะมาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อจัดจำหน่ายให้กับสถาบันเสริมความงามและสปาชั้นนำทั่วไปเทศซึ่งสามารถสร้างยอดขาย ประมาณร้อยละ 20 ของธุรกิจโดยรวมทั้งหมดสำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2556 บริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป เตรียมการเปิดตัวธุรกิจด้านสุขภาพและความงามใหม่อย่างเป็นทางการภายใต้ชื่ออาเมทิส บอดี้ แอนด์ บิวตี้ คลับ ซึ่งเป็นคลับสุขภาพและความงามแห่งใหม่ใหญ่ที่สุดในย่านรามอินทรา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมสำหรับกลุ่มผู้หญิงโดยเฉพาะมีจุดเด่นในด้านการผสมผสานศาสตร์การดูแลสุขภาพความงามทั้งภายในภายนอกรวมทั้งการทำทรีทเม้นท์ที่ผ่านการวิจัยค้นคว้าจากสถาบัน ชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 50 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 1-2 สาขา ส่วนรายได้คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ของธุรกิจโดยรวมของกลุ่มทั้งหมด
นอกจากการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการกับลูกค้าในแต่ละกลุ่มธุรกิจแล้ว ไบโอคอส กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการให้บริการกับลูกค้า โดยการจัดฝึกอบรมพนักงานก่อนปฎิบัติงานจริงให้มีความรู้เพียงพอที่จะให้คำปรึกษาด้านความงามกับลูกค้าได้อย่างถูกวิธี การฝึกอบรมเรื่องการทำทรีทเม้นท์ต่างๆ รวมถึงการฝึกอบรมทักษะด้านการขายและการให้บริการลูกค้าโดยมีการทดสอบมาตรฐานความรู้ของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ปัจจุบัน ไบโอคอส กรุ๊ป มีจำนวนพนักงานทั่วประเทศกว่า 1,000 คน ซึ่งมากกว่าปี 2554 ถึงร้อยละ 50 นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือในการให้บริการตามสาขาให้มีความทันสมัยรองรับการให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่ลูกค้าด้วย
“ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการขยายฐานการให้บริการกับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นจากฐานเดิมที่มีลูกค้าที่ใช้บริการทั่วประเทศแล้วกว่า 1 แสนรายนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจความงามครบวงจรในอาเซียน“ คุณสิเรียม กล่าวทิ้งท้าย
