เมอร์ค ขยายศูนย์พัฒนาทางชีวภาพแบบครบวงจรในอเมริกาเหนือ จีน และยุโรป

0
506
image_pdfimage_printPrint

ดาร์มสตัดท์, เยอรมนี–11 ม.ค.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

– การขยายศูนย์พัฒนาระดับโลกมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
– ศูนย์พัฒนาทางชีวภาพในบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ และเซี่ยงไฮ้ของจีน มาพร้อมกับเทคโนโลยีและบริการของเมอร์คแบบครบครัน
– ศูนย์พัฒนากระบวนการการผลิตแห่งใหม่ และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งตามมาตรฐาน GMP ในฝรั่งเศส จะช่วยเร่งผลักดันการพัฒนาชีวภัณฑ์ให้รุดหน้าเร็วขึ้น

เมอร์ค ( Merck ) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ ประกาศขยายศูนย์พัฒนาทางชีวภาพแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านของผลิตภัณฑ์ชีวกระบวนการ ตลอดจนขีดความสามารถในการผลิต และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม

http://mma.prnewswire.com/media/455283/Merck___expanding_centers.jpg

การขยายศูนย์พัฒนาดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการเปิดศูนย์พัฒนากระบวนการผลิต 2 แห่งในสหรัฐฯและจีนนั้น เป็นการต่อยอดความสำเร็จของเมอร์คในการดำเนินธุรกิจของศูนย์พัฒนาทางชีวภาพในเมืองมาร์กทิยัค ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาใหม่ 2 แห่ง จะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับลูกค้าในเขตมหานครเซี่ยงไฮ้และบอสตัน โดยศูนย์แต่ละแห่งจะพรั่งพร้อมไปด้วยขีดความสามารถด้านการพัฒนากระบวนการผลิตและบริการต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการให้บริการพัฒนาเซลล์เพาะเลี้ยง (cell line) ทั้งในรูปแบบของการพัฒนาต้นทางและปลายทาง ตลอดจนการผลิตระดับคลินิกที่ไม่อิงมาตรฐาน GMP

“เรามองเห็นการขยายตัวของอุปสงค์ทั่วโลกที่มีต่อโซลูชั่นการพัฒนากระบวนการผลิตแบบครบวงจร และเมอร์คก็เป็นผู้ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จแก่ลูกค้ากลุ่มชีวเวชภัณฑ์” อูดิท บาทรา สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเมอร์ค และซีอีโอกลุ่มธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ ( Life Science ) กล่าว “การขยายศูนย์พัฒนาในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนของเราในการเป็นผู้จัดหาโซลูชั่น วัตถุดิบ และบริการชั้นแนวหน้าในด้านการพัฒนากระบวนการทั้งหมด ตลอดจนการผลิตระดับคลินิก ซึ่งล้วนแล้วแต่จำเป็นสำหรับการผลิตชีวภัณฑ์ และนี่คือการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพของเมอร์ค เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าใน 3 ทวีป”

ศูนย์พัฒนาทางชีวภาพของเมอร์คในเมืองมาร์กทิยัค ประเทศฝรั่งเศส เป็นฐานการผลิตชุดอุปกรณ์สำหรับใช้ครั้งเดียวที่ได้มาตรฐาน GMP โดยศูนย์แห่งนี้ติดตั้งเทคโนโลยีของเมอร์คอย่างครบเครื่อง ซึ่งรวมถึงถังปฏิกรณ์ชีวภาพขนาด 2,000 ลิตรแบบใช้ครั้งเดียวจากไลน์ผลิตภัณฑ์ Mobius(R) จึงทำให้ศูนย์พัฒนาที่มาร์กทิยัคสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ครบถ้วนสมบูรณ์ให้แก่บริษัทชีวเวชภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาระดับคลินิกของบริษัทเหล่านี้

บริการที่ครอบคลุมของเมอร์คได้มอบประโยชน์และสร้างความท้าทายที่สำคัญให้แก่บริษัทชีวเวชภัณฑ์ในทุกขั้นตอนของการพัฒนาโมเลกุลและการพาณิชย์ในทุกภูมิศาสตร์ โดยนอกเหนือจากถังปฏิกรณ์ชีวภาพ Mobius(R) แล้ว เมอร์คยังมีผลิตภัณฑ์โซลูชั่นแบบเบ็ดเสร็จ เช่น Lynx(R) CDR, Viresolve(R) Process Area Modules, Pellicon(R) และ Centinel(TM) Intelligence Virus Defense

บริษัทที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ซึ่งมีทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานอันจำกัด จะได้รับประโยชน์จากหุ้นส่วนที่มีความเชี่ยวชาญและเปี่ยมด้วยประสบการณ์ทั้งในด้านกระบวนการพัฒนาและการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ภายใต้มาตรฐาน GMP โดยช่วยเร่งให้บริษัทเหล่านี้สามารถพัฒนาโครงการทางคลินิกระยะแรกได้รวดเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่ก้าวหน้ากว่า จำเป็นต้องพิชิตความท้าทายโดยก้าวข้ามอุปสรรคของการพัฒนาระดับคลินิกในขั้นสุดท้าย เพื่อไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ และเร่งจัดหายาที่ราคาไม่แพงออกสู่ท้องตลาด และด้วยบริการที่ครอบคลุมนี้ จึงทำให้เมอร์คสามารถช่วยเหลือ เร่งการขยายตัว และถ่ายทอดเทคโนโลยีในกระบวนการทุกขั้นตอนเพื่อยกระดับความสำเร็จขึ้นไปอีกขั้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์คทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้

เกี่ยวกับเมอร์ค
เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำในด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และเพอร์ฟอร์แม้นซ์ แมททิเรียล พนักงานราว 50,000 คนของบริษัทได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยปรับปรุงและยกระดับคุณภาพชีวิต ตั้งแต่ยาชีวภาพเพื่อรักษาโรคมะเร็งหรือโรคปลอกประสาทอักเสบ ระบบที่ทันสมัยสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการผลิต ไปจนถึง liquid crystal ที่ใช้กับสมาร์ทโฟนและโทรทัศน์ LCD ทั้งนี้ ในปีพ.ศ. 2558 เมอร์คสามารถทำยอดขายได้ 1.285 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ

เมอร์ค เป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์และเคมีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2211 ครอบครัวผู้ก่อตั้งบริษัทยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาจนถึงปัจจุบัน โดยบริษัทเมอร์คในดาร์มสตัดท์ ประเทศเยอรมนี ครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์เมอร์คทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจในชื่อ อีเอ็มดี โซโรโน่, มิลลิพอร์ซิกม่า และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แม้นซ์ แมททิเรียล

รูป – http://mma.prnewswire.com/media/455283/Merck___expanding_centers.jpg