เพราะเหตุใด??… ฟันผุ จึงเสี่ยงติดเชื้อจนตาบอดได้

0
350
image_pdfimage_printPrint

จากข่าวดังบนโลกโซเชี่ยลมีเดีย ในกรณีที่ฟันผุทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลามเข้าสู่
ไซนัส คนไข้มีอาการตาโปน ร่วมกับการมองเห็นแย่ลง สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อบริเวณ
ฟันได้ลุกลามเข้าสู่เนื้อเยื่อรอบลูกตาที่อยู่ภายในเบ้าตานั่นเอง
เนื่องจากตำแหน่งโครงสร้างของฟันอยู่ใกล้กับบริเวณดวงตา หากมีการติดเชื้อที่
ฟันหรือฟันผุ เชื้อโรคจากบริเวณฟันจะสามารถขึ้นไปถึงเบ้าตาได้หลายทางด้วยกัน เช่น
ผ่านไปทางเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้าขึ้นสู่เบ้าตาโดยตรง หรือเชื้อจากฟันอาจจะทะลุเข้าสู่
โพรงไซนัสและผ่านเข้าสู่เบ้าตาทางช่องว่างของกระดูกที่กั้นระหว่างไซนัสกับเบ้าตา หรือ
เชื้ออาจจะเข้าสู่แขนงของหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้า แล้วไหลย้อนเข้าสู่บริเวณเบ้าตา
จนนำไปสู่การติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนไข้ที่มีฟันผุจึงมีโอกาสติดเชื้อ
ที่เบ้าตาตามมา
ผู้ที่มีเบ้าตาติดเชื้อ จะมีอาการดังนี้ ได้แก่ ปวดตา ตาแดง เปลือกตาบวมปิด มีขี้ตา
มากขึ้น เยื่อบุตาขาวอาจจะบวมออกมาคล้ายวุ้น กลอกตาไม่ได้ทำให้เห็นภาพซ้อน ตา
โปนมากขึ้น อาจมีตามัวลง และมีไข้ร่วมด้วย
ในบางราย หากการติดเชื้อเป็นรุนแรง อาจจะมีก้อนฝีหนองขึ้นมาในเบ้าตาและตา
โปนมากจนดึงรั้งเส้นประสาทตาที่อยู่ด้านหลังลูกตาให้เกิดความเสียหาย และเกิดการสูญ
เสียการมองเห็นตามมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากการติดเชื้อในเบ้าตาลามเข้าสู่สมอง จะ
ทำให้มีอาการซึมลง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
โดยทั่วไป การติดเชื้อในเบ้าตาไม่ได้เกิดจากกรณีฟันผุเพียงอย่างเดียว โดย
สาเหตุหลักของการติดเชื้อในเบ้าตา มีทั้งหมด 3 ประการหลัก ได้แก่
1. การที่หนังตาหรือเปลือกตาได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บเป็นแผลและมีการติดเชื้อ ซึ่ง
การติดเชื้อสามารถลุกลามเข้าไปจนเกิดการติดเชื้อในเบ้าตาตามมาได้
2. การติดเชื้อที่ลามมาจากอวัยวะที่อยู่ใกล้ดวงตา นอกจากฟันผุแล้ว ที่พบได้บ่อย
กว่า คือ ไซนัสอักเสบ ที่สามารถลามเข้าสู่เบ้าตาและทำให้เกิดการติดเชื้อได้
นอกจากนี้ถุงน้ำตาหรือต่อมน้ำตาติดเชื้อ ก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อใน
เบ้าตาตามมาได้เช่นกัน
3. การติดเชื้อที่ลามมาจากอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่ไกลจากดวงตา ก็สามารถแพร่เชื้อไป
ที่เบ้าตาได้โดยผ่านทางกระแสเลือด เช่น กรณีที่เป็นปอดอักเสบ , ฝีในตับ
หรือระบบทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ เป็นต้น ทั้งขึ้นอยู่กับสภาวะภูมิคุ้มกันของผู้
ป่วย ความรุนแรงและปริมาณของเชื้อโรค

สำหรับการป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อที่เบ้าตา ที่เราสามารถทำได้คือ หากมีอาการ
ของการติดเชื้อที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งในร่างกาย ควรรีบพบแพทย์และทำให้รักษาอาการ
ติดเชื้อให้หายเร็วที่สุด หรือหากกรณีที่มีอาการของการติดเชื้อที่เบ้าตาแล้ว ควรพบจักษุ
แพทย์ตั้งแต่ระยะแรก เพื่อตรวจละเอียด รวมทั้งรับการรักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อทาง
เส้นเลือดดำ ในบางรายหากรุนแรงจนมีก้อนฝีหนองอาจจะต้องผ่าตัดระบายหนองออก
เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียการมองเห็นถาวรตามมา

บทความโดย : แพทย์หญิงอุษณีย์ สีพงษ์พันธ์ จักษุแพทย์เฉพาะทาง ชั้น 3 โรงพยาบาล
เวิลด์เมดิคอล ถนนแจ้งวัฒนะ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02–836-9999 ต่อ 3621-2