เชฟโรเลต เผยโฉม สปิน รถอเนกประสงค์เต็มเปี่ยมด้วยไลฟ์สไตล์

0
386
image_pdfimage_printPrint
  • เชฟโรเลต หวนคืนสู่ตลาดเอ็มพีวีด้วยการเปิดตัวสปิน รุ่นใหม่ล่าสุด หลังเคยบุกเบิกเซกเมนท์นี้เป็นบริษัทแรกในเมืองไทย
  • มอบความอเนกประสงค์ด้วยเบาะ 7 ที่นั่ง สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์แบบร่วมสมัย พร้อมการขับขี่อันสะดวกสบายแบบรถยนต์นั่ง
  • สปิน ออกทำตลาดประเทศไทยด้วยรุ่น LTZ

กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เผยโฉม สปิน รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดให้สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ สปิน ซึ่งเป็นรถซับคอมแพ็กต์ระดับโลกของเชฟโรเลต จะออกทำตลาดรถบีเซกเมนท์ในประเทศไทย เพียบพร้อมด้วยความอเนกประสงค์ในแบบรถเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบาย เนื้อที่ใช้สอยกว้างขวาง รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ประหยัดเชื้อเพลิง สมรรถนะการขับขี่และการควบคุมที่เหนือชั้น อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่ร่วมสมัยและบึกบึน

 

เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว เชฟโรเลต เปิดตัวรถเอ็มพีวีรุ่นแรกในเมืองไทยอย่างซาฟิร่า นับเป็นการบุกเบิกเซกเมนท์ใหม่ให้อุตสาหกรรมยานยนต์ ซาฟิรา ประสบความสำเร็จอย่างมากโดยได้รับรางวัล “รถเอ็มพีวียอดเยี่ยมแห่งปี” ในประเทศไทยสามปีซ้อน ลูกค้ามีความประทับใจในซาฟิร่าอย่างมาก ในปัจจุบันยังคงเห็นซาฟิร่า โลดแล่นอยู่บนท้องถนนเมืองไทยมากมาย ทั้งนี้สปิน รุ่นใหม่ไม่ได้เป็นตัวแทนของซาฟิร่า แต่เดินตามรากฐานความเป็นเอ็มพีวีคุณภาพเยี่ยมที่สร้างสรรค์โดยเชฟโรเลต

 

สปิน มีเป้าหมายเจาะกลุ่มคนไทยร่วมสมัย เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถที่มีความสะดวกสบาย กว้างขวาง มีขนาดพอเหมาะและมีราคาไม่สูงเกินไป ขณะเดียวกัน ยังสอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ในเมืองที่ต้องการรถสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูงหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์  สปิน อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่แบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย เป็นรถที่ใครก็เป็นเจ้าของได้หากพิจารณาถึงราคาจำหน่ายและค่าใช้จ่ายการดูแลรักษา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถของคนที่กำลังสร้างครอบครัวและคนรุ่นใหม่ที่อาศัยในเมืองใหญ่ของประเทศไทย

 

การเผยโฉมสปิน ในครั้งนี้จัดขึ้นที่ร้านโฟลว์ เฮาส์ (Flow House) ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและแขกที่มาร่วมงานได้รับชมข้อมูลว่า ทำไมสปิน จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างครอบครัวซึ่งต้องการรถที่รองรับสัมภาระได้ แต่ยังคงเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย เนื้อที่กว้างขวางและการขับขี่ที่มั่นคง ถึงแม้จะมีขนาดที่ไม่ใหญ่โตก็ตาม

สปิน ขึ้นสายการผลิตในศูนย์การผลิตแห่งใหม่ของจีเอ็ม อินโดนีเซีย ในเมืองเบกาซี โดยนอกจากทำตลาดในประเทศไทยและอินโดนีเซียแล้ว สปิน ยังถูกส่งออกไปจำหน่ายในฟิลิปปินส์อีกด้วย

 

มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สปิน เติมความสมบูรณ์แบบให้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราในประเทศไทย เติมเต็มช่องว่างระหว่างรถ

ซีดานและรถอเนกประสงค์เอสยูวีหรือรถกระบะได้อย่างดีเยี่ยม”

“สปิน เป็นรถที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นครอบครัวและคนรุ่นใหม่ที่ต้องการแบ่งปันกิจกรรมในวันพักผ่อนกับเพื่อนฝูง ทีมพัฒนาของเราซึ่งประกอบด้วยวิศวกรทั่วทั้งภูมิภาคนี้ได้สร้างสรรค์รถซัมคอมแพ็กค์เอ็มพีวีสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ดังกล่าวโดยเฉพาะ รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่งด้วยเนื้อที่อันกว้างขวาง สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ สะดวกสบายและยืดหยุ่น อีกทั้งยังมีความทันสมัย สดใหม่ สมบุกสมบันและบึกบึน ทุกคุณสมบัติเด่นรวมอยู่ในรถที่มีขนาดกำลังดีคันนี้” มร. แอพเฟล กล่าว

 

สปิน ได้รับการพัฒนาบนแพลทฟอร์มของเชฟโรเลต ในระดับโลก โดยได้รับข้อมูลอันเป็นประโยชน์จากทีมวิศวกรของเชฟโรเลต ทั่วทั้งภูมิภาคนี้ ซึ่งนำมาต่อยอดสู่การพัฒนาตั้งแต่เริ่มโครงการไปจนถึงขั้นตอนการออกแบบและการผลิต 

 

มร. แอพเฟล กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเป็นเจ้าของและได้ขับขี่รถซับคอมแพ็กต์เอ็มพีวีไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเสมอไป เราต้องการสร้างรถเอ็มพีวีที่มีความสนุกทั้งในการครอบครองและขับขี่ เอ็มพีวีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ สปินจึงเป็นรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี”

 

“เราทุ่มเทใส่ใจอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบภายนอกและภายในห้องโดยสาร การเลือกขุมพลังขับเคลื่อน การปรับปรุงสมรรถนะการขับขี่และการควบคุม ความสะดวกสบายและความประณีตในการตกแต่ง สปิน ถูกผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ”
มร. แอพเฟล กล่าว

 

การออกแบบ

 

เส้นสายของสปิน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดูอัลพอร์ทเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต ให้ภาพลักษณ์ความร่วมสมัย และเน้นย้ำว่ารถเอ็มพีวีขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องมีรูปลักษณ์แบบดั้งเดิมเสมอไป

 

ทีมนักออกแบบของเจนเนอรัล มอเตอร์ส บราซิล เป็นผู้นำในการดีไซน์สปิน ซึ่งเอาใจใส่ในการออกแบบภายนอกเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้สปิน ดูเหมือนเป็น รถเอ็มพีวีธรรมดาอีกคันหนึ่งในตลาดเส้นสายที่บึกบึนและชัดเจนทำให้รูปลักษณ์ของสปินมีความโดดเด่นและทันสมัย สัดส่วนตัวถังที่คมคายจากช่วงสันไหล่ด้านข้างตัวรถที่สูงทำให้ตัวรถดูใหญ่กว่าที่เป็นและสะดุดตาขึ้น สะท้อนตัวตนความเป็นแบรนด์เชฟโรเลต ขนานแท้

 

ห้องโดยสาร 

 

 

ห้องโดยสารของสปิน มีรายละเอียดอันพิถีพิถันเช่นกัน เป้าหมายอันดับแรกคือการพัฒนาพื้นที่อันกว้างขวางรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่งอย่างสะดวกสบาย พร้อมกับคงความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน การออกแบบภายในมีความอเนกประสงค์ ทันสมัย และมีกลิ่นอายความสปอร์ต ขณะเดียวกัน ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่งยังสัมผัสได้ถึงความกว้างขวางเมื่อนั่งอยู่ในสปิน

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว พื้นที่ในห้องโดยสารของสปิน ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงการย้ายเบรกมือเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับช่องวางแก้ว ถึงแม้จะมีเนื้อที่อันกว้างขวางแต่ยังคำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ โดยเฉพาะการใช้งานสวิทช์ต่างๆ ยังคงให้ความสะดวกอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากเบาะที่นั่งที่สามารถพับได้ 23 รูปแบบแล้ว สปิน ยังมีช่องเก็บของในห้องโดยสารมากถึง 32 ช่อง มีเนื้อที่ความจุอยู่ที่ 162 ลิตรเมื่อใช้เบาะ 7 ที่นั่ง โดยจะเพิ่มเป็น 864 ลิตรหากพับเบาะแถวหลังลง และจะมีเนื้อที่สูงถึง 1,608 ลิตรหากพับเบาะแถวกลางลง

 

ตำแหน่งเบาะนั่งที่ค่อนข้างสูงทำให้เกิดมุมมองแบบโรงภาพยนตร์ เปิดทัศนียภาพรอบด้านให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งและสามารถสัมผัสได้ถึงความกว้างขวาง ขณะที่ตำแหน่งเบาะผู้ขับขี่ที่สูงช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและลดความเมื่อยล้า

 

ห้องโดยสารของสปิน ยังมาพร้อมเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต นั่นคือดีไซน์แบบดูอัลค็อกพิท แผงคอนโซลแบบทูโทนที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันช่วยสร้างบรรยากาศระดับพรีเมียม มาตรวัดความเร็วของสปิน เป็นแบบดิจิตอล ส่วนมาตรวัดรอบเครื่องยนต์เป็นแบบเข็มอนาล็อกช่วยเพิ่มความสปอร์ตอีกระดับ หากเข้าในที่มีแสงน้อยแผงมาตรวัดของเชฟโรเลต เรืองแสงโทนสีฟ้าไอซ์บลู เอกลักษณ์เฉพาะที่โด่งดังของเชฟโรเลต

 

อีกหนึ่งความโดดเด่นภายในห้องโดยสารของสปิน คือความเงียบ ด้วยการบุวัสดุเก็บเสียงเป็นอย่างดีซึ่งช่วยลดทั้งเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือน และความกระด้าง ทำให้การขับขี่มีความเงียบสะดวกสบายอย่างมาก

 

สมรรถนะการขับขี่และการควบคุม

 

เพื่อเติมความสมบูรณ์แบบให้การขับขี่ที่เงียบสงบและสร้างบรรยากาศแบบรถยนต์นั่ง สปิน มาพร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระและด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ปรับแต่งเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่และควบคุมที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอบสนองได้ทั้งการขับขี่ในเมืองและเสถียรภาพอันมั่นคงในช่วงความเร็วสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรถระดับนี้ ผู้ขับขี่สามารถควบคุมตัวรถได้อย่างแม่นยำโดยไม่สูญเสียความสะดวกสบายแม้แต่น้อย โดยสปิน มาพร้อมคอยล์สปริงทั้งสี่ล้อ

 

เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและรุ่นย่อย

 

สปิน จะออกจำหน่ายในตลาดประเทศไทยคือรุ่น LTZ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ DOHC (Double Overhead Camshafts) 16 วาล์วพร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual-VVT (Dual Variable Valve Timing)  หัวฉีดเชื้อเพลิงมัลติพอยท์ (Multi-Point Fuel Injection) ให้พละกำลังสูงสุดที่ 107 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที

 

ถ่ายพละกำลังลงพื้นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะที่ระบบส่งกำลังมาตรฐานเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบ Driver Shift Control ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งเป็นครั้งแรกในรถระดับนี้ อัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายถูกปรับปรุงให้สอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์บล็อกนี้เพื่อสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันสูงสุด

 

ทั้งนี้เชฟโรเลต สปิน มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอย่างระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (หน้า/หลัง) เครื่องเสียงซีดี/เอ็มพี3 ลำโพงสี่ตัว พร้อมระบบเชื่อมต่อยูเอสบีและบลูทูธ ช่องเสียบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยไฟหน้าส่องสว่าง Follow-Me-Home และระบบกันขโมย สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกระหว่างสองรุ่นย่อยจะแตกต่างกันเล็กน้อย รุ่น LTZ จะมาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคา

 

เชฟโรเลต มีความเชื่อมั่นว่าเชฟโรเลต สปิน จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าอย่างมาก ทั้งในด้านราคาจำหน่ายและอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน

 

การพัฒนา

 

สปิน ผ่านการทดสอบและประเมินผลสมรรถนะในหลายประเทศในสี่ทวีปทั่วโลก ทีมผู้พัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสปินตั้งแต่เริ่มต้น โดยได้ทดสอบสมรรถนะในด้านความเงียบ แรงสั่นสะเทือน ความกระด้าง ความสะดวกสบาย การขับขี่และการควบคุม รวมถึงสมรรถนะเครื่องยนต์บนท้องถนนทั่วทั้งภูมิภาคนี้

 

ทีมงานยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาให้สปิน สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเบาะที่นั่งอันยืดหยุ่น การจัดวางตำแหน่งผู้ขับขี่ (สำหรับเวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้ายและพวงมาลัยขวา) ความสะดวกสบายของผู้โดยสาร และการคำนึงถึงเรื่องใช้เชื้อเพลิง

 

สำหรับเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวานั้น ระบบขับเคลื่อนและระบบปรับอากาศของผู้โดยสารตอนหลังได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ มีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อรวมรวมความคิดเห็นจากลูกค้าทั่วโลก รวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเพิ่มความเข้าใจในความต้องการใช้รถของแต่ละภูมิภาค สิ่งเหล่านี้ทำให้ทีมผู้พัฒนาได้รับข้อมูลอันมีความสำคัญยิ่ง รวมถึงการรับรู้ของลูกค้าและเงื่อนไขเฉพาะของแต่ละประเทศก่อนที่จะใส่ไว้ในสปิน ที่ผลิตออกจำหน่ายจริง

 

สปิน เป็นรถที่มีความสำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งของเชฟโรเลต เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ความกว้างขวาง และความประหยัด ทั้งหมดอัดแน่นอยู่ในรถขนาดพอเหมาะคันนี้ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง แต่ก็พร้อมที่จะให้ความสนุกสนานบนถนนทางไกล เป็นคำตอบสำหรับคอรถยนต์ในเมืองอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มผู้เริ่มสร้างครอบครัวและคนรุ่นใหม่ในเมืองไทยที่ต้องการรถ 7 ที่นั่งที่ไม่ใหญ่โตเกินไปนัก เชฟโรเลต เชื่อมั่นว่าสปิน จะตอบสนองเซกเมนท์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

สปิน 1.5 ลิตร LTZ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมเปิดให้ลูกค้าจับจองภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

 

 

 

#############

เชฟโรเลต สปิน

 

เชฟโรเลต สปิน เป็นรถระดับโลกที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาระบบวิศวกรรรมโดยทีมจีเอ็ม บราซิล โดยได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์จากทีมวิศวกรของจีเอ็ม ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สปินเป็นรถขนาดซับคอมแพ็กต์ (หรือบีเซกเมนท์ในประเทศไทย) เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ออกแบบมาเพื่อตอบสนองด้านความกว้างขวาง สะดวกสบาย อเนกประสงค์ ประหยัดน้ำมัน พร้อมสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมที่เหนือชั้น ตลอดจนดีไซน์อันร่วมสมัยและบึกบึน

 

ทีมวิศวกรของจีเอ็ม ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีส่วนร่วมในการออกแบบและพัฒนาสปิน ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อมอบความคิดเห็นอันมีคุณค่าในการพัฒนาเอ็มพีวีรุ่นล่าสุดของเชฟโรเลต สำหรับการใช้งานในภูมิภาคนี้

 

สปิน เติมความสมบูรณ์แบบให้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเชฟโรเลต ที่จำหน่ายในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะยกระดับแบรนด์และเสริมความแข็งแกร่งให้เชฟโรเลต สามารถเจาะกลุ่มรถอเนกประสงค์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในภูมิภาคนี้ พร้อมกับสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

สปิน จะขึ้นสายการผลิตในศูนย์การผลิตจีเอ็ม เบกาซี ในประเทศอินโดนีเซีย โดยนอกจากออกจำหน่ายในอินโดนีเซียและประเทศไทยแล้ว สปิน จะออกทำตลาดฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน เชฟโรเลต จะเปิดตัวสปิน อย่างเป็นทางการพร้อมกับเปิดให้ลูกค้าจับจองที่งาน 2013 บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34

 

การพัฒนาและการทดสอบประเมินคุณภาพ

 

  • การออกแบบเริ่มต้นในปี 2550 ก่อนที่สปิน รุ่นโปรดักชั่นคันแรกจะออกจากสายการผลิตจีเอ็ม บราซิลในช่วงกลางปี 2555

 

  • นอกจากบราซิลแล้ว สปิน ยังได้รับการพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลีอีกด้วย

 

  • ทีมวิศวกรจีเอ็ม ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ข้อมูลทั้งในด้านสภาพตลาดและมาตรฐานของรถเซกเมนท์นี้ รวมถึงมอบข้อคิดเห็นจากการประเมินผล และให้การสนับสนุนด้านการออกแบบชิ้นส่วนร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและศูนย์การผลิต

 

  • การทดสอบสมรรถนะเกิดขึ้นในสี่ทวีป รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทีมวิศวกรได้ทดสอบสมรรถนะของสปิน ในด้านเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) พร้อมกับทดสอบความสะดวกสบาย การขับขี่และการควบคุม รวมถึงสมรรถนะเครื่องยนต์บนท้องถนนทั่วภูมิภาคนี้

 

  • ทีมผู้พัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังให้ข้อมูลด้านความต้องการใช้งานรถยนต์ในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเบาะที่นั่งอันยืดหยุ่น การจัดวางตำแหน่งผู้ขับขี่ (สำหรับเวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้ายและพวงมาลัยขวา) ความสะดวกสบายของผู้โดยสาร และการคำนึงเรื่องการใช้เชื้อเพลิง

 

  • สำหรับเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวานั้น ระบบขับเคลื่อนและระบบปรับอากาศของผู้โดยสารตอนหลังได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ

 

  • มีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อรวมรวมความคิดเห็นจากลูกค้าทั่วโลก รวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อให้ทีมผู้พัฒนาได้รับข้อมูลที่มีความสำคัญ อาทิการรับรู้ของลูกค้าและเงื่อนไขเฉพาะของแต่ละประเทศก่อนที่จะใส่ไว้ในสปิน ที่ผลิตออกจำหน่ายจริง เพื่อสร้างความสมดุลทั้งในด้านการออกแบบ อุปกรณ์ที่มีความโดดเด่น และสมรรถนะที่เหมาะกับทุกภูมิภาค

 

รูปลักษณ์ภายนอก

 

  • มร. แมทท์ นูน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของจีเอ็ม บราซิล

 

  • ทิศทางหลักของการออกแบบ คือการสร้างสรรค์และพัฒนายานยนต์ที่มีความบึกบึนและเปี่ยมด้วยความทันสมัย รวมถึงสัดส่วนที่โดดเด่นชัดเจน

 

  • ผลลัพธ์ที่ได้คือรถยนต์ที่มีความโอ่อ่า ด้วยสัดส่วนอันมีเอกลักษณ์ มีบุคลิกและภาพลักษณ์ที่ดึงดูดทุกสายตา

 

  • สัดส่วนตัวถังที่คมคายจากช่วงสันไหล่ด้านข้างตัวรถที่สูงทำให้ตัวรถดูใหญ่กว่าที่เป็น พร้อมกับเติมความสมบุกสมบัน

 

  • เส้นสายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามยังช่วยเพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์สูงสุด

 

  • มีการใช้แผ่นเหล็กที่มีความหนายิ่งขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพ ความปลอดภัย และความแข็งแกร่งของตัวรถ

 

รูปลักษณ์ภายใน

 

  • มร. ดาโกเบอร์โต ทริเบีย เป็นผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบรูปลักษณ์ภายในของจีเอ็ม บราซิล

 

  • มาตรฐานหลักของการออกแบบภายใน คือการสร้างสรรค์เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง พร้อมความสะดวกสบายและยืดหยุ่นสำหรับผู้โดยสารทุกคนในรถที่มีขนาดกำลังพอเหมาะ

 

  • เบาะทั้ง 7 ที่นั่งของสปิน มอบความสบายเต็มที่และถูกจัดวางแบบโรงภาพยนตร์เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นและเน้นย้ำความรู้สึกโอ่โถง

 

  • ตำแหน่งที่นั่งผู้ขับขี่ที่ค่อนข้างสูงช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดีกว่าเดิมและช่วยลดความเมื่อยล้า

 

  • เบาะที่นั่งของสปินสามารถปรับได้ 23 รูปแบบและมีช่องเก็บของทั้งหมด 32 ช่อง

 

  • แผงแดชบอร์ดโดดเด่นด้วยดีไซน์ดูอัล-ค็อกพิทเอกลักษณ์อันโด่งดังของเชฟโรเลต ใช้สีทูโทนให้บรรยากาศหรูหรา

 

  • เติมความสปอร์ตด้วยแผงมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอลและมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มอนาล็อก ตกแต่งด้วยสีเงินและโครเมียม

 

  • แผงมาตรวัดยังใช้ตัวอักษรหรือฟอนท์แบบพิเศษและสีฟ้าไอซ์บลู

 

  • สปิน มีเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ 162 ลิตร (หากปรับเบาะใช้งานทั้ง 7 ที่นั่ง) ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 864 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวหลังลงและมีเนื้อที่สูงสุดถึง 1,608 ลิตรเมื่อพับเบาะลงทั้งหมด

 

  • การลดเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือนและความกระด้างเป็นผลลัพธ์จากการใช้ฉนวนบุกันเสียงเทคโนโลยีใหม่และใช้วัสดุที่ช่วยลดระดับเสียงที่เล็ดลอดเข้าสู่ในห้องโดยสาร จึงแทบปราศจากเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ เสียงจากถนน และเสียงรบกวนอื่นๆ ภายนอกตัวรถ เพื่อให้ผู้โดยสารสัมผัสความเงียบสงบและหรูหรา

 

แชสซีส์

 

  • สปิน มีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,620 มม. มิติตัวถังยาว 4,360 มม. กว้าง 1,953 มม.และสูง 1,683 มม. รุ่น LTZ มีน้ำหนัก 1,277 กก. มีความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร

 

  • ระยะห่างฐานล้อระหว่างคู่หน้าและคู่หลังคือ 1,503 มม.และ 1,509 มม.ตามลำดับซึ่งช่วยยกระดับสมรรถนะการขับขี่และเสถียรภาพการทรงตัว มาพร้อมยางขนาด 195/65 R15 ส่วนสูงจากพื้นถึงตัวรถ 191 มม.

 

  • ช่วงล่างด้านหน้าใช้แบบอิสระแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานแข็งกึ่งอิสระ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง

 

  • ช่วงล่างได้รับการปรับแต่งเพื่อให้มีสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมที่ดีที่สุดในเซกเมนท์ สปินตอบสนองด้านความสะดวกสบายขณะขับขี่ในเมืองและมอบความมั่นคงเมื่อขับทางไกล ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่รวดเร็วโดยยังคงความสบายในห้องโดยสารอย่างเต็มที่

 

  • ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าผ่อนแรง แร็กแอนด์พีเนียนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

 

  • ระบบเบรกหน้าเป็นแบบจานดิสก์พร้อมระบบระบายความร้อน ส่วนเบรกหลังเป็นแบบดรัมเบรก ให้ความมั่นใจอย่างเต็มที่ในการหยุดรถ

 

ขุมพลังขับเคลื่อนและระบบส่งกำลัง

 

 

  • สปิน จะออกจำหน่ายในตลาดประเทศไทยด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ DOHC (Double Overhead Camshafts) 16 วาล์วพร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual-VVT (Dual Variable Valve Timing)  หัวฉีดเชื้อเพลิงมัลติพอยท์ (Multi-Point Fuel Injection) ให้พละกำลังสูงสุดที่ 107 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที

 

  • สปิน ใช้ระบบส่งกำลังมาตรฐานเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบ Driver Shift Control ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดาซึ่งเป็นรุ่นแรกของรถระดับนี้ อัตราทดเกียร์ถูกปรับตั้งให้สอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันสูงสุด

 

 

 

 

 

รุ่นย่อยและอุปกรณ์อันโดดเด่น

  • สปิน จะออกจำหน่ายในตลาดประเทศไทยในรุ่น LTZ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอย่างระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (หน้า/หลัง) เครื่องเสียงซีดี/เอ็มพี3 ลำโพงสี่ตัว พร้อมระบบเชื่อมต่อยูเอสบีและบลูทูธ ช่องเสียบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยไฟหน้าส่องสว่าง Follow-Me-Home และระบบกันขโมย  นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคา

 

  • รุ่น LTZ มาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคา