สายการบินเอทิฮัด มีผลกำไรสุทธิทะลุ 200 เปอร์เซนต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

0
284
image_pdfimage_printPrint

ผลการดำเนินงานประจำปี 2555:

 

  • ผลกำไรสุทธิปี 2555 ทะลุ 200 เปอร์เซ็นต์ โดยทำยอด 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี2554: 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
  • ประสบความสำเร็จในการร่วมลงทุนกับสายการบินแอร์ เซเชลส์ (ร้อยละ 40) สายการบินแอร์เบอร์ลิน (29.21 เปอร์เซ็นต์) สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย (9 เปอร์เซ็นต์) และสายการบินแอร์ ลินกัส (2.987 เปอร์เซ็นต์)
  • รายรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ จาก 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รายได้จากการร่วมเป็นพันธมิตรกับสายการบินอื่นคิดเป็นร้อยละ 19
  • ผลประกอบการ EBITDAR (รายได้ก่อนการหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า) เพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 753 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (จากเดิม 648 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
  • สามารถลดต้นทุนที่มิใช่เชื้อเพลิงได้ 5 เปอร์เซ็นต์ โดยคำนวนจากมาตราวัดจำนวนที่นั่งโดยสาร (Available Seat Kilometers – ASKs)
  • ยอดผู้โดยสารทะลุเพดานถึง 10 ล้านคนเป็นครั้งแรก
  • สถิติการสำรองที่นั่ง 78.2 เปอร์เซ็นต์ กระโดดเพิ่มขึ้น 2.4 เปอร์เซนต์
  • มาตราวัดรายได้จากผู้โดยสาร สามารถทำยอดได้ 48 พันล้าน เพิ่มขึ้นกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ ยังคงมีมาตราวัดที่นั่งโดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • รางวัล ‘สายการบินชั้นนำของโลก’ 4 สมัยติดต่อกันจากงานประกาศรางวัล เวิลร์ด ทราเวล อวอร์ดส์
  • กองบินเพิ่มขึ้นกว่า 70 ลำ สามารถให้บริการเที่ยวบิน 86 เมืองจุดหมายปลายทาง และอีกกว่า 248 ที่หมายจากเที่ยวบินร่วมกับสายการบินอื่นๆ
  • สามารถให้บริการการขนส่งทางอากาศได้กว่า 367,837 ตัน ซึ่งเติบโตสูงขึ้นกว่า 19 เปอร์เซ็นต์

 

 

 

ดัชนีชี้วัด*

2056

2055

การแปรผัน

รายได้ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

4.8

4.1

17%

กำไรสุทธิ (ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

42

14

200%

EBIT (ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

170

137

24%

EBITDAR (ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

753

648

16%

ผู้โดยสาร (ล้าน)

10.3

8.4

23%

มาตราวัดรายได้จากผู้โดยสาร (พันล้าน)

48

39

23%

มาตราวัดจำนวนที่นั่งโดยสาร (พันล้าน)

61

51

20%

การสำรองที่นั่ง

78.2%

75.8%

2.4 pts

จำนวนเครื่องบิน

70

64

6 ลำ

จำนวนพนักงาน

10,656

9,038

18%

น้ำหนักในการขนส่ง (ตัน)

367,837

310,188

19%

พันธมิตรเที่ยวบินร่วม

41

29

12

 

* บัญชีของสายการบินเอทิฮัดได้รับการตรวจสอบโดย เคพีเอ็มจี

 

สายการบิน เอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายงานผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปี 2555 ทั้งสิ้น 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถทะลุผลกำไรจากปีก่อนได้ถึง 200 เปอร์เซ็นต์ (ปี2554: 14 ล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ถึงพัฒนาการที่แข็งแกร่งทั้งในด้านรายได้ จำนวนผู้ใช้บริการ และการควบคุมต้นทุน

 

สามารถทำรายรับได้กว่า 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 17 เปอร์เซ็นต์ (ปี2554: 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จำนวนผู้มาใช้บริการ 10.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ (ปี2554: 8.4 ล้านคน) ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของทางสายการบินเอทิฮัด ซึ่งสามารถทำรายได้รวมได้กว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

มร.เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “นี่ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของสายการบินเอทิฮัดเลยก็ว่าได้”

 

“เราสามารถต่อยอดทำผลกำไรสุทธิได้มากขึ้นเป็นปีที่สอง ถือเป็นความสำเร็จที่น่าจดจำ และยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านการลงทุนของสายการบินฯ ที่จะสามารถสั่นสะเทือนวงการเศรษฐกิจโลกได้”

 

“เรามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก จากการร่วมเป็นพันธมิตรในการลงทุนกับทางสายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์ เซเชลส์ สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย และสายการบินแอร์ ลินกัส ซึ่งสามารถต่อยอดมูลค่าในการดำเนินธุรกิจของเรา”

 

“และเรายังนำพาเศรษฐกิจของนครอาบูดาบีให้รุดหน้าได้อย่างที่ตั้งปณิธานไว้ ทั้งในด้านการบินและการเชื่อมเครือข่ายการท่องเที่ยวทั่วโลก”

 

ผลประกอบการ EBIT (รายได้ก่อนการหักดอกเบี้ยและภาษี) เพิ่มขึ้นเป็น 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 24 เปอร์เซ็นต์ (จากเดิม 137 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ขณะเดียวกันผลประกอบการ EBITDAR (รายได้ก่อนการหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า) เพิ่มเป็น 753 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (จากเดิม 648 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) คิดเป็นสัดส่วน 16 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ทั้งหมด

 

ตั้งแต่ มร.โฮแกน เข้าร่วมกับสายการบินเอทิฮัด ในฐานะประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในปี 2549 ธุรกิจของสายการบินฯเติบโตเป็นอย่างมากจาก 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันสามารถสร้างมูลค่าได้เกือบ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในแต่ละปี

 

มร.โฮแกน กล่าวอีกว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมาสายการบินเอทิฮัดยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินทั่วโลกกว่า 50 แห่ง สามารถระดมเงินทุนในการขยายธุรกิจได้กว่า 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ “สถาบันการเงินต่างๆ มีความเข้าใจและและเชื่อใจในการดำเนินธุรกิจ วิสัยทัศน์ และศักยภาพของเรา”

 

ในปีที่ผ่านมา มาตราวัดรายได้จากผู้โดยสาร (RPKs) สามารถแซงหน้ามาตราวัดจำนวนที่นั่งโดยสาร (ASKs) ได้เป็นปีที่ 4 โดย รายได้จากผู้โดยสาร ทำยอดได้กว่า 48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ (จากเดิม 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และจำนวนที่นั่งโดยสาร ทำยอดได้ 61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (จากเดิม 51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เป็นผลให้ปัจจัยที่นั่งยกระดับเพิ่มขึ้นกว่า 2.4 จุด คิดเป็น 78.2 เปอร์เซ็นต์ (จากเดิม 75.8 เปอร์เซ็นต์)

 

สายการบินเอทิฮัดสามารถให้บริการผู้โดยสารกว่า 1.2 ล้านคนผ่านเครือข่ายของสายการบินฯ จากการเป็นพันธมิตรเที่ยวบินร่วม ส่วนสายการบินแอร์เบอลินซึ่งสายการบินเอทิฮัดถือหุ้นอยู่กว่า 29.21 เปอร์เซ็นต์ มีผลงานที่โดดเด่นไม่แพ้กัน สามารถให้บริการผู้โดยสารทั้งสิ้น 300,000 คน จากการใช้เครือข่ายเที่ยวบินร่วมดังกล่าว ต่อยอดมูลค่าการดำเนินธุรกิจระหว่างสองสายการบินได้กว่า 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

จากภาวะการขึ้นราคาน้ำมันในปี 2555 สายการบินเอทิฮัดสามารถลดผลกระทบดังกล่าวได้โดยการปฏิบัติตามนโยบายที่เข้มงวด โดยการป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับต้นทุนน้ำมัน 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ปฏิบัติในปี 2554

 

การบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบด้านในทุกพื้นที่การดำเนินธุรกิจ เห็นได้จากการลดต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงต่อจำนวนที่นั่งโดยสารได้กว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนักวิเคราะห์อิสระจากซีบูรี (Seabury) ชี้ ถือเป็นต้นทุนที่อยู่ในควอไทล์ที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับสายการบินอื่น

 

“เราเข้าใจถึงวิธีการบริหารจัดการต้นทุนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการต่อยอดนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ และการบริการที่จะส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษของเรา” กล่าวโดย มร.โฮแกน

 

การดำเนินงานของสายการบินเอทิฮัดระหว่างปี 2555:

 

  • กำไรจากผลประกอบการปีแรก จากกลยุทธ์การเป็นพันธมิตรร่วมกับสายการบินแอร์เบอลิน ในเดือนธันวาคมปี 2554  เป็นการสานสัมพันธ์โดยให้บริการเที่ยวบินอาบูดาบี – เบอร์ลิน เป็นการดำเนินธุรกิจซึ่งได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
  • การถือหุ้นในสายการบินแอร์ เซเชลส์ในสัดส่วนร้อยละ 40 ในเดือนมกราคมปี 2555 โดยระยะการดำเนินงานที่ระบุไว้ในสัญญาทั้งสิ้น 5 ปี ทั้งสองสายการบินมีการควบรวมเครือข่ายเส้นทางการบิน โปรแกรมการสะสมไมล์ การอบรมและการบำรุงรักษา ด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นี้ จะสามารถสร้างผลกำไรให้กับทางสายการบินแอร์ เซเชลส์ได้
  • เริ่มการเดินทางไปยัง 6 จุดหมายปลายทางใหม่ – ตริโปลี, เซี่ยงไฮ้, ไนโรบี, ลากอส, อาเมดาบัดและบาสร่า ซึ่งทางการบินจะประกาศเที่ยวบินใหม่ที่เชื่อมไปยัง กรุงวอชิงตัน นครโฮจิมิน และเมืองเซา เปาโล ในปี 2556 นี้
  • ในเดือนมกราคมเริ่มมีการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเป็นครั้งแรกในคาบสมุทรอาหรับ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนความมุ่งมั่นของสายการบินเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
  • เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งและผู้ลงทุนในโครงการ ‘สหภาพการวิจัยพลังงานชีวภาพอย่างยั่งยืน’ ของสถาบันมาสดาร์ ร่วมกับผู้ก่อตั้งรายอื่นๆ อย่าง โบอิ้งและยูโอพี ซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบประสิทธิภาพพลังงานทางเลือกในภูมิภาคนี้
  • เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์ม ‘เซเบอร์โซนิค’ รูปแบบขั้นสูงในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 โดยทำสัญญาทั้งสิ้น 10 ปี มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้สายการบินเอทิฮัดมีความทันสมัยมากขึ้น การบูรณาการรูปแบบการสำรองที่นั่ง สิ่งประดิษฐ์ การตลาด การวางแผน การพาณิชย์แบบออนไลน์ การจัดจำหน่ายและการควบคุมการเดินทาง
  • เพิ่มประสิทธิภาพความถี่และความสามารถในการให้บริการไปยัง 6 เมือง ดังนี้ ดัสเซลดอร์ฟ กรุงเทพฯ คูเวต ดัมมัม อิสตันบูลและไคโร
  • เดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรเที่ยวบินร่วม ที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 41 สายการบิน รวมถึงความสัมพันธ์ในเชิงกลยุทธ์กับทางสายการบินแอร์ ฟรานซ์ – เคแอลเอ็ม ซึ่งได้เซ็นสัญญาตั้งแต่เดือนตุลาคม
  • ร่วมลงทุนกับสายการบินแอร์ ลิงกัส หลังจากลงนามในการให้บริการเที่ยวบินร่วมและเข้าร่วมกิจกรรมเชิงพาณิชย์
  • ร่วมเป็นหุ้นส่วนในสายการบินเวอร์จิน ออสเตรเลีย เป็นการร่วมลงทุนครั้งล่าสุดที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งในการลงนามเที่ยวบินร่วม การเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด และผลตอบแทนร่วมกันจากโปรแกรมสะสมไมล์
  • เปิดตัว “ETIHAD WI-FLY” อำนวยความสะดวกในการเชื่อต่ออินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงและโทรศัพท์มือถือโดยพานาโซนิค บนเครื่องบิน เอ330-200 เที่ยวบินสู่บรัสเซลในเดือนธันวาคม ถือเป็นก้าวแรกของเทคโนโลยีในวงการการบิน ด้วยมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใต้สัญญาที่มีระยะเวลา 10 ปีกับทางพานาโซนิค
  • ลงนามเป็นพันธมิตรในการสะสมไมล์ร่วมกับสายการบินแอร์ เบอลิน ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดความจงรักภักดีทั่วโลก โดยมุ่งเน้นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและสร้างรายได้สูง
  • ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ‘สายการบินชั้นนำของโลก’ 4 สมัยติดต่อกัน จากงานประกาศรางวัลเวิร์ลด์ ทราเวล อวอร์ดส์

 

“ลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของทุกอย่างที่เราทำ ในปี 2555 เรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้บริการภาคพื้นดินและทางอากาศ ซึ่งเป็นผลให้จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพทางการเงินมั่นคงขึ้น” กล่าวโดย มร.โฮแกน

 

สายการบินเอทิฮัดยังเดินหน้าลงทุนในการบริการต่างๆ ซึ่งในปี 2556 ทางสายการบินฯเผยแผนการเปิดให้บริการเลาจน์แห่งใหม่ ณ นครปารีส (เปิดให้บริการเดือนธันวาคม 2555) กรุงวอชิงตัน ซิดนีย์และเมลเบิร์น

 

และยังเปิดศูนย์ให้บริการติดต่อในภูมิภาคยุโรปขึ้นเป็นครั้งแรก ณ เมืองแมนเชสเตอร์ เพื่อให้บริการกับลูกค้า ซึ่งศูนย์ให้บริการแห่งนี้ได้มีการจ้างพนักงานกว่า 190 คน และได้ให้บริการไปแล้วกว่า 18 แห่ง และมีภาษาให้เลือกรับบริการถึง 9 ภาษา ตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยสามารถทำรายได้ให้กับทางสายการบินฯได้กว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

จากการสะสมไมล์สะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภักดีของลูกค้าอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้มีฐานลูกค้ากว่า 1.8 ล้านคนในปีที่ผ่านมา เสริมด้วยบริการ PointsPay คืออนุญาตให้ลูกค้าสามารถนำแต้มมาแลกซื้อสินค้าแทนเงินสดกว่า 30 ล้านร้านค้าทั่วโลก

 

มร.โฮแกน กล่าว ในด้านการขนส่งสายการบินเอทิฮัดยังเป็นผู้ให้บริการที่มีบทบาทสำคัญ โดยประสบความสำเร็จในการขนส่งเพิ่มขึ้นกว่า 19 เปอร์เซ็นต์  โดยการขยายความสามารถในการขนส่งขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์

 

“เอทิฮัดคาร์โก ยังคงเดินหน้าตรวจสอบประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพให้สูงขึ้นกว่าความต้องการของตลาด” มร.โฮแกน กล่าว “เรากำลังสร้างแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ โดยคำนึงถึงการแบ่งประเภทผลิตภัณฑ์และลูกค้า”

 

ในแผนการเพิ่มประสิทธิภาพในปี 2556 ซึ่งจะมีการยกระดับฝูงบินประกอบด้วยเครื่องบินโดยสาร 11 ลำ และเครื่องเพื่อการขนส่งอีก 3 ลำ รวมทั้งสิ้น 14 ลำ

 

ซึ่งคำสั่งดังกล่าวจะมีผลกับเครื่องลำตัวกว้าง 9 ลำ (เครื่องโดยสารโบอิ้ง 777-300อีอาร์ จำนวน 6 ลำ, เครื่องบินขนส่งโบอิ้ง 777 จำนวน 2 ลำ และเครื่องขนส่งแอร์บัส 330 จำนวน 1 ลำ) และเครื่องบินลำตัวแคบอีก 5 ลำด้วยกัน (เครื่องบินแอร์บัส 320 จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินอ์บัส 321 จำนวน 1 ลำ) โดยจะมุ่งมั่นตอบสนองการให้บริการของสายการบินเอทิฮัดได้ในทันที

 

ปลายปี 2555 สายการบินฯได้ว่าจ้างพนักงานจำนวน 10,656 เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 9,038 คน ซึ่งในที่นี้มีกว่า 125 สัญชาติ ทั้งนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาจากโปรแกรมการศึกษา Emiratisation ของสายการบินฯ ไม่ว่าจะเป็นนักบิน วิศวกร หรือผู้จัดการระดับบัณฑิตศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 1,254 คน ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากทางสายการบินฯ เรียบร้อยแล้ว คิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ ของสำนักแรงงานหลัก

 

“ผมรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของเรา และความพยายามอุตสาหะของพวกเราทุกคนที่ทำงานในสายการบินเอทิฮัด” กล่าวโดย มร.โฮแกน

 

“ผมตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และคาดหวังที่จะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนของเราเพื่อมุ่งมั่นและเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของเราอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการเติบโตอย่างต่อเนื่องและวิวัฒนาการต่างๆ ให้กับกรุงอาบูดาบี และเพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าทึ่งให้กับผู้โดยสารของเราได้จดจำ”