ศัลยกรรมเมืองไทยโตสวนกระแสเศรษฐกิจ ต่างชาติยืนหนึ่งแห่จองคิวทำศัลยกรรม

0
616
image_pdfimage_printPrint

นับจากปี 2555 ตลาดศัลยกรรมความงามไทยมีมูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท แต่ระยะเวลาเพียง 6 ปี มูลค่าตลาดศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้นไปถึง 85% หรือคิดเป็นมูลค่า 36,000 ล้านบาทในปี 2561 มากกว่าปี 2560 ประมาณ 6,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2562 มูลค่าตลาดศัลยกรรมความงามไทย ยังจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปอีกประมาณ 10 – 20% ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะอยู่ในสภาวะใดก็ตาม

ปัจจุบันตลาดศัลยกรรมความงามไทยประกอบด้วยกลุ่มคลินิกความงาม, กลุ่มโรงพยาบาลที่หันมาให้ความสำคัญกับบริการด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และกลุ่มโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามเฉพาะด้าน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมจากประเทศเกาหลีร่วมเข้ามาชิงพื้นที่ร่วมด้วย โดยแทรกซึมแฝงการโฆษณาผ่านช่องทางรายการโทรทัศน์, ดารา, นักร้อง, เน็ตไอดอล, เซเลบริตี้ ทำให้เกิดเอเจนซี่จัดทัวร์ศัลยกรรมในประเทศเกาหลีมากมาย

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในขณะที่คนไทยนิยมเดินทางไปทำศัลยกรรมในประเทศเกาหลี แต่สำหรับประเทศไทยเอง กลับถูกยกให้เป็นศูนย์กลางด้านความงามอันดับต้นของเอเชีย มีความพร้อมของเทคโนโลยีอันทันสมัย และเทคนิคทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ในแต่ละปีมีจำนวนของชาวต่างชาติแห่เข้ามาใช้บริการศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี

นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด เปิดเผยว่า

“ศัลยแพทย์ไทย มีชื่อเสียงทางด้านศัลยกรรมความงามตกแต่งในระดับโลก และได้รับการยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลกในเรื่องฝีมือ ความเป็นธรรมชาติ ทำให้ชาวต่างชาติให้ความเชื่อมั่นและเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเข้ารับการทำศัลยกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคต คาดว่า ประเทศไทย จะสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผ่าตัดศัลยกรรมความงามโลกได้อย่างแน่นอน”

ทางด้านศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ตั้งแต่ช่วงปี 2561 เป็นต้นมา มีกลุ่มชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาทำศัลยกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะนิยมเข้ามาทำศัลยกรรมดึงหน้า, ศัลยกรรมตา, ศัลยกรรมจมูก และศัลยกรรมเสริมหน้าอก จากเดิมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนไทย ในขณะที่มีชาวต่างชาติเพียงประมาณ 10% แต่ปัจจุบันกลุ่มชาวต่างชาติ ขยับจำนวนเพิ่มขึ้นมาถึง 30% แม้จะไม่มีการโฆษณาก็ตาม โดยส่วนใหญ่เดินทางมาจากประเทศแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย ระดับ Hi-End เช่น แพทย์, ทนายความ, เจ้าของธุรกิจ, นักแสดงฮอลลีวูด ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนกลุ่มชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น คือ คุณภาพ, เทคนิคการผ่าตัด และฝีมือความชำนาญของแพทย์

“ความปลอดภัย สำหรับคนไข้ต้องมาเป็นอันดับแรก ดังนั้น ในการทำศัลยกรรมความงาม เราจึงมุ่งเน้น และคิดค้นเทคนิคการผ่าตัด เพื่อคนไข้ในหลากหลายมิติ ทั้งการเกิดแผลที่มีขนาดเล็ก ทำให้รู้สึกเจ็บน้อย แผลหายเร็ว แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติกลมกลืนกับใบหน้าและรูปร่าง อย่างเทคนิค “Modern Facelift” ที่มีการวิเคราะห์ใบหน้าก่อนผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเลือกทำเฉพาะส่วนที่มีปัญหาจริงๆ ทำให้ไม่ต้องผ่าตัดเยอะ แต่คงประสิทธิภาพของการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าได้ เพราะตัดและเย็บในชั้น SMAS” นพ.ธนัญชัย กล่าว