กระแสของโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างรวดเร็ว การแข่งขันของคนในสังคมโดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่จะเป็นใบเบิกทางในการก้าวสู่ความสำเร็จนั่นคือใบปริญญา มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่หวังว่าการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ จะเพิ่มโอกาสและดีกรีของความสามารถในการแข่งขันเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย , สถานสอนภาษา เอ.ยู.เอ. และ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้จัดให้มีการสัมมนาให้ความรู้ “ศึกษาต่ออเมริกา” ขึ้น ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 27 แล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมแก่ผู้ที่สนใจเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา
ปรียวรรณ สาครเย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า “สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่มีระบบอุดมศึกษาที่ดีที่สุด เพราะเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ความหลากหลายของผู้คนและวัฒนธรรม รวมทั้งความมีคุณภาพทั้ง วิชาการ คณาจารย์ แหล่งข้อมูล สถานที่สิ่งแวดล้อม การศึกษาขั้นอุดมศึกษาในสหรัฐอเมริกาได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเปิดกว้างและสร้างโอกาสให้แก่ผู้คนจำนวนมาก
ทั้งในด้านวิชาการ ความคิดสร้างสรรค์ ความยืดหยุ่น การแลกเปลี่ยนและมีส่วนร่วมของนักเรียนจากทั่วโลกเพื่อร่วมผลักดันโลกใบนี้ให้ก้าวไปสู่ความสุขของการอยู่ร่วมกัน ปัจจุบันมีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยจำนวนกว่า 4,000 แห่งให้ได้เลือกเรียนได้ตามความพอใจ สำหรับนักเรียนไทยจัดเป็นคนกลุ่มใหญ่ในกลุ่มนักเรียนต่างชาติในสหรัฐ โดยไทยจัดอยู่ในอันดับ 10 ของโลกที่ส่งนักศึกษาไปยังสหรัฐมากที่สุด อย่างไรก็ตามผู้ที่สนใจสมัครสอบจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ และเมื่อเดินทางไปศึกษาในต่างประเทศแล้วจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตที่แตกต่างจากความเป็นอยู่ในบ้านเรา”
นาถฤดี ตัณฑวรรณ ที่ปรึกษาด้านการศึกษา สถานสอนภาษา เอ.ยู.เอ.(American University Alumni Language Center)เสริมว่า “การเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทักษะด้านภาษา ทั้งการอ่าน การเขียน การฟัง โครงสร้าง รวมทั้งการพูดเพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร ซึ่งควรมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ”
ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ดจำกัด เจ้าของธุรกิจรำข้าวพันล้าน ดีกรีปริญญาโท 2 ใบ ด้านการเมืองการปกครอง สาขาภาวะผู้นำ ที่ John F. Kennedy School of Government Harvard University และ ด้านบริหารธุรกิจที่ Sloan, Massachusetts Institute of Technology (M.I.T) มีคำแนะนำแก่ผู้ที่สนใจศึกษาต่อต่างประเทศว่าควรเตรียมความพร้อมดังนี้
1. ประวัติการศึกษา ผลการเรียนที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัครเรียน ความรู้ด้านภาษาอังกฤษ รวมทั้งการฝึกอบรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่เลือกเรียนต่อ 2. ประวัติการทำงาน เขียนเล่าถึงประสบการณ์ ความสามารถนอกเหนือจากคะแนนสอบ เช่น ภาวะผู้นำ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ความคิดสร้างสรรค์ ความพร้อมทั้งด้านอารมณ์และจิตใจ นอกจากนี้จดหมายรับรองจากศิษย์เก่าของสถาบันที่สมัครเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ เนื่องจากศิษย์เก่ารู้จักทั้งตัวผู้สมัครและรู้จักสถาบันการศึกษาจะทำให้เพิ่มความมั่นใจได้ว่าผู้สมัครสามารถเข้ากับระบบการเรียนการสอนได้ และสุดท้ายคือ 3. ประวัติการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่ามีความพร้อมด้านค่าใช้จ่ายในการเรียน ทั้งหมดเขียนอธิบายอย่างซื่อสัตย์ สั้นกระชับ ชัดเจนและตรงประเด็น
สิ่งสำคัญคือเมื่อได้ไปศึกษาต่อในต่างประเทศแล้ว จำเป็นต้องปรับตัวในเรื่องรูปแบบการเรียน เนื่องจากระบบการเรียนการสอนในต่างประเทศ ต้องค้นคว้าหาข้อมูลเอง เน้นการแสดงออกและการแสดงความคิดเห็น เสนอไอเดียใหม่ๆ การแลกเปลี่ยนทัศนคติ การยอมรับความแตกต่างและความคิดเห็นที่หลากหลาย ไม่ยึดติดกับกรอบความคิดแบบเดิมๆ เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ
ควรให้กำลังใจตัวเองเสมอ เมื่อพบกับปัญหาหรืออุปสรรค ในยามที่เราต้องแก้ไขด้วยตนเองตามลำพัง การคิดไตร่ตรองอย่างมีสติ จะช่วยให้ผ่านความยากลำบากได้ คิดในแง่บวก เข้มแข็งและอดทน
นอกจากนี้อย่าลืมที่จะเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน คือการเรียนในห้องจากอาจารย์ ตำรา และเพื่อนร่วมชั้นเรียน ส่วนการเรียนรู้นอกห้องเรียนคือการใส่ใจและเปิดกว้างกับสิ่งรอบข้างและสังคมรอบตัว รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวไปในต่างเมืองหรือต่างประเทศในช่วงวันหยุด เพื่อค้นพบตัวเองและแรงบันดาลใจใหม่ๆให้กับชีวิต
สุดท้ายคือเมื่อเรียนด้านวิชาการแล้ว ควรเรียนรู้วิชามนุษย์ด้วย รู้จักการอยู่ในสังคม การปรับตัวให้รับกับการเปลี่ยนแปลง การเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างกล้าหาญ และการรู้จักนอบน้อมและให้เกียรติผู้อื่น สามารถที่จะมีความสุขได้ในทุกๆสถานการณ์ เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อสำเร็จการศึกษาอย่าลืมนำความรู้ความสามารถนั้นกลับมาใช้พัฒนาประเทศไทย ช่วยกันคนละไม้คนละมือในการผลักดันประเทศชาติสู่ความสำเร็จ
ความสำเร็จด้านการเรียน เป็นเพียงก้าวหนึ่งในชีวิตเท่านั้น อย่าลืมว่าความสำเร็จในชีวิตที่แท้จริงคือการสร้างประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ
