ทำความรู้จัก 9 ตัวการร้ายของอาการฟันเหลือง ไม่ขาวสดใส

0
222
image_pdfimage_printPrint

ปัญหาฟังเหลือง ไม่ขาวใส จริงๆ แล้วเป็นกันเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าหากเรารู้เคล็ดลับที่ทำให้ฟันขาวด้วยวิธีรักษาที่ถูกวิธีและป้องกัน อาการฟันเหลืองก็จะดีขึ้น มาทำความรู้จัก 9 ตัวการร้ายที่ทำให้ฟันเหลืองกันดีกว่า
1.อายุและกรรมพันธุ์
เมื่อคุณอายุมากขึ้น ชั้นเคลือบฟันจะบางลง ทำให้สีเหลืองหรือสีน้ำตาลจากธรรมชาติของชั้นเนื้อฟัน จะถูกเผยออกมา ซึ่งสีของฟันจะเข้มหรืออ่อน อันนี้ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์

2.อาหารที่มีสีสันสดใส
การรับประทานอาหารรสจัด เช่น ต้มยำกุ้ง ไข่พะโล้ เครื่องปรุงรสและเครื่องเทศจะทำให้มีการทิ้งคราบสีหลงเหลือไว้ที่ฟันได้ อย่างง่ายดาย

3.เครื่องดื่ม
ดื่มเครื่องดื่มที่มีสี เป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ ร่วมกับการที่เราแปลงฟันไม่สะอาดพอ จึงทำให้มีคราบอาหาร คราบแบคทีเรีย และหินปูน มาเกาะติดสะสมทีละน้อย ๆ จนเห็นเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีดำติดตามซอกฟัน

4.การลดน้ำหนัก
เมื่ออยู่ในช่วงไดเอท (diet) บางคนตั้งหน้าตั้งตา จำกัดอาหาร หวังลดน้ำหนัก ควบคุมสัดส่วนให้สวยปิ้ง จนลืมคิดไปว่า การที่คุณสาวๆ รับประทานอาหารน้อยลงนั้น เป็นสาเหตุให้คุณขาดวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญต่อเหงือก และ ฟัน ทั้ง โฟเลต (Folate) , วิตามินดี (Vitamin D) , โปรตีน (Protein) , แคลเซียม , วิตามินซี (Vitamin C) ฯลฯ
นอกจากนี้พฤติกรรมการรับประทานน้อย ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ยังส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง จนอาจเกิดการติดเชื้อที่เหงือก และช่องปากได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

5.การฟอกฟัน ให้ขาว
แม้ยังไม่ชัดเจนว่า การฟอกฟันขาวจะทำลายผิวฟัน แต่ก็มีงานวิจัยหลายชิ้น ที่ระบุว่า การฟอกฟันเพื่อให้ขาวใสนั้น สามารถส่งผลให้ผิวฟันบอบบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำบ่อยเกินไป !
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจฟอกสีฟันตามคลินิก(clinic) , ใช้เจลฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน หรือแม้กระทั่งใช้ยาสีฟันไวท์เทนนิ่ง (Whitening) ที่อาจมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนผิวฟัน ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสมอจ้า

6.ฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น เพิ่มความเสี่ยง โรคเหงือก
เป็นอีกเรื่องที่ต้องเตือนกันไว้ สำหรับ หนุ่ม-สาว แรกรุ่น ที่นอกจากเราจะทราบกันดี ว่าเมื่อ ฮอร์โมน (Hormone) ในช่วงวัยรุ่นพุ่งพล่าน นอกจากจะทำให้เกิดสิว หน้ามัน ฯลฯ แล้ว ยังสามารถทำให้เกิดภาวะเหงือกบวม และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อที่เหงือก เกิดโรคเหงือกอักเสบ และแผลในปากได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ หากดูแลสุขอนามัยภายในช่องปากให้ดี แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และพบแพทย์เป็นประจำ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ได้ค่ะ

7.การสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นตัวการใหญ่อีกสาเหตุหนึ่งของฟันเหลือง

8.การแปลงฟันผิดเวลา
หลายท่านเคยชิน ทานอาหารเสร็จปุ๊บ ต้องรีบเข้าห้องน้ำแปรงฟันปั๊บ เพื่อหวังกำจัดเชื่อแบคทีเรีย เป็นอีกหนทางในการป้องกันฟันผุ แต่ในความจริงแล้ว การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ อาจไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพฟันเสมอไป หากมื้อนั้นคุณรับประทาน อาหารที่มีกรดสูง เช่น ไวน์ , กาแฟ , น้ำอัดลม หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ทั้งนี้เพราะ อาหารที่มีกรดสูง เมื่อเรารับประทานเข้าไป กรดของมันจะเข้าไปทำลายเคลือบฟันมากอยู่แล้ว หากยิ่งไปขัดถู แปรงฟันเข้าอีก เคลือบฟันก็จะยิ่งสึกกร่อนและถูกทำลายมากเข้าไปใหญ่ ฉะนั้นแนะนำว่า หลังทานอาหารที่มีกรดสูงเข้าไป ให้กลั้วปากด้วยน้ำเปล่าไปก่อน จากนั้นรอสัก 1 ชั่วโมงแล้วค่อยแปรงฟัน เช่นนั้นจะส่งผลดีต่อฟันมากกว่าค่ะ

9.การทำฟัน
การจัดฟัน จะมีอุปกรณ์ที่ยืดติดฟัน เช่น แร่เงิน มัลกัม ฯลฯ วัสดุจัดฟันพวกนี้สามารถเปลี่ยนสีของฟันให้เป็นสีเหลืองได้ นอกจากนี้กรณีที่คุณเกิดอุบัติเหตุ ฟันหัก ฟันเสียหาย ก็ทำให้ฟันเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองได้