กสิกรไทยแนะเทคนิคลงทุนสดใสหลังวัยเกษียณ

0
395
image_pdfimage_printPrint

มนุษย์เงินเดือนไทยเกษียณปีละกว่า 4 แสนคน ส่วนหนึ่งก้าวสู่วัยเกษียณไร้ทิศทางการออมและลงทุนให้เงินงอกเงย หลังเกษียณต้องใช้ 24,000 บาทต่อเดือน แนะเริ่มออมเมื่ออายุยังน้อยวัย 30 ต้องให้ได้ 25,000 บาทต่อเดือน เผยเทคนิคเพื่อชีวิตที่มีความสุขหลังเกษียณเน้นลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำและไม่มองข้ามเรื่องการดูแลสุขภาพ

K.Tawee2

นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผู้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำ ทั้งที่เป็นข้าราชการและลูกจ้างเอกชนที่จะเกษียณอายุการทำงานในสิ้นเดือนกันยายนนี้ประมาณ 400,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีทำให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยมีแนวโน้มอายุยืนยาวมากขึ้น ดังนั้นผู้เกษียณต้องมีเงินออมเพื่อรองรับชีวิตหลังการเกษียณมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน

ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย (K-Expert) ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีวิตของผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ โดยหากผู้เกษียณใช้ชีวิตแบบ “เกษียณสุขใจ” คือชีวิตหลังเกษียณแบบพอเพียง พออยู่พอกิน จะต้องเตรียมเงินใช้จ่ายประมาณ 294,400 บาทต่อปี หรือคิดเป็น 24,533 ต่อเดือน หรือหากอยากมีชีวิตหลังเกษียณแบบ “เกษียณสุขเกษม” คือ ใช้ชีวิตแบบสมบูรณ์พูนสุข จะต้องเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายประมาณ  625,300 บาทต่อปี หรือคิดเป็น 52,108 บาท ต่อเดือน

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตหลังเกษียณจะมี 5 ส่วน โดยมีสัดส่วนดังนี้ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำรงชีพ อาทิ ค่าอาหาร ของใช้ในบ้าน เครื่องแต่งกาย  คิดประมาณ 27-29%  ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อาทิ ค่าน้ำไฟ อินเทอร์เน็ต ซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน ประมาณ 20-22%  ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ อาทิ ประกันรถยนต์ น้ำมันและทางด่วน ซ่อมรถ ประมาณ 20-23%  ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ อาทิ ประกันสุขภาพ อาหารเสริม ค่ารักษาพยาบาล ประมาณ 11-13% และค่าใช้จ่ายเพื่อนันทนาการ อาทิ ท่องเที่ยว ทานอาหารนอกบ้าน กีฬา ประมาณ 17-18%

นายทวี กล่าวว่า มนุษย์เงินเดือนควรตระหนักเรื่องการออมเงินสำหรับใช้จ่ายในวัยเกษียณตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากแนวโน้มค่าครองชีพในอนาคตนับวันจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ  และเมื่อถึงวันที่ต้องเกษียณจริง ค่าครองชีพก็จะสูงจนไม่สามารถใช้จ่ายเงินได้เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยสำหรับผู้ที่จะเริ่มเก็บออม หากเริ่มออมเมื่ออายุ 30 ปี ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ลงทุนในกองทุน หุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ การทำประกันชีวิต ฯลฯ ควรจะออมให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 25,000 บาทอย่างต่อเนื่องหากเริ่มเมื่ออายุ 35 ปี ก็ควรออมให้ได้เดือนละ 30,000 บาท และหากเริ่มออมเมื่ออายุ 40 ปี ก็ต้องออมให้ได้ถึง 35,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นจึงควรจะเริ่มออมเมื่ออายุยังน้อย เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระหนักเกินไป เมื่ออายุมากขึ้น

สำหรับเทคนิคการลงทุนของคนวัยหลังเกษียณ ควรเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ควรเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่องประกันชีวิตและสุขภาพที่ต้องประกันตั้งแต่ยังมีสุขภาพดีอยู่ เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินออมยามเกษียณ อีกทั้งควรลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและยืนยาว