OSEA2012 พร้อมตอบโจทย์อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของไทย

0
354
image_pdfimage_printPrint

มั่นใจกิจกรรมทั้งในส่วนของการประชุมและนิทรรศการจะให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งพลังงาน

ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ประกอบการไทย

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ความต้องการพลังงานของไทยจะขยายตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและภาคธุรกิจด่อสร้างช่วงหลังอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 ทั้งนี้ แม้ว่าไทยจะมีตลาดน้ำมันและก๊าซในประเทศที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีแนวโน้มต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบ ก๊าซจากระบบท่อ และก๊าซแอลเอ็นจีมากขึ้น นักวิเคราะห์ชี้ว่าไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียในส่วนของผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ผ่านกรรมวิธีแล้ว (refined oil) เนื่องจากมีการลงทุนสร้างโรงกลั่นจำนวนมากในช่วงก่อนหน้านี้

OSEA2012 ระบุอีกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของไทยมีโอกาสมากมายที่จะได้รับอานิสงส์จากตลาดเอเชียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ประกอบกับได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยล่าสุด ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเสริมขีดความสามารถของธุรกิจและกระบวนการกลั่น รวมทั้งได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการประเภทเดียวกันเพื่อให้มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความท้าทายในการพัฒนาและปัญหาต่างๆ ที่อุตสาหกรรมนี้กำลังประสบอยู่

บริษัทน้ำมันและก๊าซหลายแห่งทั่วโลกจะมาร่วมงานและจัดกิจกรรมทางการค้าอันหลากหลายในงาน OSEA2012 นับเป็นงานประชุมและนิทรรศการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 27 ถึง 30 พฤศจิกายนนี้ ณ มาริน่า เบย์ แซนด์ สิงคโปร์ โดยในครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะเข้าร่วมในการประชุม OSEA2012 International Conference ด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและหารือแนวทางที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซให้ก้าวหน้าต่อไป

“งาน OSEA ในครั้งนี้มีความยิ่งใหญ่อลังการมากขึ้น ไม่เพียงแต่ด้านขนาดของงาน แต่ยังรวมถึงประโยชน์ที่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซจะได้รับ ทั้งนี้ เราได้เห็นความสนใจและการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นจากหลายประเทศ เนื่องจากบริษัทข้ามชาติด้านน้ำมันและก๊าซต่างมุ่งหน้ามาขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง” มร. ฉั่ว บั๊ค เชง ผู้อำนวยการโครงการฝ่าย Engineering Events ของ Singapore Exhibition Services (SES) กล่าว

 

สำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าร่วมงาน OSEA ครั้งนี้ ได้แก่ เจเอสที กรุ๊ป (JST Group), บริษัท ไทย ซินเทอร์ด เมช จำกัด, บริษัท เดอะ เฟรท จำกัด (The Freight Co., Ltd.) และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงผู้ประกอบการที่ร่วมงานเป็นครั้งแรก อาทิ EMAS AMC, Franklin Offshore International, Marco Polo Marine และผู้ประกอบการอีกหลายรายที่เคยร่วมงานในครั้งก่อนๆ เพื่อมาพบปะกับคู่ค้าปัจจุบันและสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับลูกค้ารายใหม่ๆ

 

ใน OSEA2010 มีผู้ประกอบการจากไทยเข้าร่วมงานกว่า 260 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2008 ในจำนวนนี้รวมถึง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด, กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน, บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ซึ่งเข้าร่วมงานดังกล่าวเพื่อสร้างเครือข่าย รวมถึงจัดหาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ

 

การสรับสนุนจากธุรกิจในประเทศบวกกับมาตรฐานระดับสากล

เจเอสที เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ด้านเทคนิคและบริการ โดยจัดหาอุปกรณ์สำหรับงานเฉพาะด้าน บริการ และกำลังคน (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) ให้แก่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ปิโตรเคมี และอื่นๆ ทั่วทั้งภูมิภาค โดยมีสำนักงานทั้งในประเทศไทยและทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทฯ เป็นส่วนหนึ่งของ เจเอสที กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทด้านการผลิตและบริการที่มีผู้ประกอบการไทยเป็นเจ้าของเองทั้งหมด ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

บริษัทฯ ให้บริการโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมและคุ้มค่าแก่ลูกค้า โดยให้การสนับสนุนธุรกิจในประเทศเพื่อให้มีมาตรฐานสากล ตลอดจนเป็นสื่อกลางในการติดต่อประสานงานในประเทศไทยสำหรับผลิตภัณฑ์/ บริการทั้งหมดที่มอบหมายให้บริษัทฯ เป็นตัวแทน

 

“OSEA เป็นหนึ่งในงานที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกมารวมตัวกัน ช่วยให้พวกเราสามารถสานต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคู่ค้าทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียและขยายฐานลูกค้าภายในภูมิภาคดังกล่าว นับเป็นงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ เทคโนโลยี และโซลูชั่นต่างๆ สู่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ภาคอุตสาหกรรมเดียวกัน และผู้นำในรัฐบาล ดังนั้น OSEA จึงเป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ของไทยที่กำลังเติบโต เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้” มร. จอห์น แสตมป์ ซีอีโอ เจเอสที กรุ๊ป กล่าว

 

ยอดผู้ร่วมงานนิทรรศการและการประชุม OSEA2012 ทำลายสถิติครั้งก่อนก่อนๆ

ผู้จัดตั้งใจจะให้งาน OSEA2012 ทำลายสถิติของครั้งก่อนๆ ทั้งในแง่พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการที่จัดสรรอย่างเรียบร้อยลงตัวตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยจัดพื้นที่เป็นสองระดับ ครอบคลุมกว่า 31,000 ตารางเมตรของมาริน่า เบย์ แซนด์ส ทั้งนี้ ในส่วนนิทรรศการจะมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าถึง 1,500 ราย จาก 48 ประเทศ/ภูมิภาค

 

งานครั้งก่อนหน้านี้ได้รับความสนใจจากผู้แทนการค้าและนักธุรกิจกว่า 25,000 คน จากกว่า 60 ประเทศ/ภูมิภาค โดยในจำนวนนี้เป็นตัวแทนจากบริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของโลก อาทิ Bahrain National Gas Company, BP Exploration Operating Company, Brunei LNG, Brunei Shell Petroleum, Chevron, CNOOC, Directorate General of Oil & Gas Indonesia, ExxonMobil Asia Pacific, Halliburton Far East, Jurong Shipyard, Kuwait Gulf Oil Company, Keppel Energy, Maersk Drilling, Malaysia Marine & Heavy Engineering, Myanmar Offshore, Petronas Carigali, Sembcorp Marine, Shell Eastern Petroleum, Vietnam National Oil & Gas Group และอื่นๆ อีกมากมาย

 

การประชุม OSEA2012 International Conference ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญที่สุดของภูมิภาคที่ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซมารวมตัวกัน จะจัดขึ้นพร้อมกับงานแสดงสินค้า เพื่อให้ตัวแทนการค้าและนักธุรกิจได้พบปะและแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและแนวโน้มธุรกิจ ตลอดจนความท้าทายอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซกำลังประสบอยู่

 

รูปแบบและเนื้อหาของการประชุม OSEA2012 International Conference ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงในปี 2012 โดยแบ่งเป็น 4 ช่วง เพื่อเจาะลึกในประเด็นที่สำคัญ เช่น คาดการณ์อุตสาหกรรมทั่วโลกและผลกระทบต่อเอเชีย แนวโน้มและความท้าทายในเชิงธุรกิจ นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการการพัฒนาและผลิตนอกชายฝั่ง การบริหารความปลอดภัยนอกชายฝั่ง โครงการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติและแอลเอ็นจี รวมถึงบริการให้คำปรึกษาทางเทคนิคที่มุ่งเน้นด้านวิศวกรรมการผลิต การเสริมสร้างการดำเนินงานด้านการผลิต ตลอดจนการบริหารจัดการพลังงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังจะให้คำแนะนำที่ใช้ได้จริงในทางปฏิบัติและเคล็ดลับในการแก้ไขปัญหาในการผลิตนอกชายฝั่ง รวมถึงด้านสุขภาพอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม (HSE) และความท้าทายทางเทคนิค แก่ผู้เข้าร่วมประชุมอีกด้วย

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.osea-asia.com

 

***

ข้อมูลโดยสังเขป:

 

ส่วนนิทรรศการและงานแสดงสินค้า OSEA2012 Exhibition
วันที่: 27 – 30 พฤศจิกายน 2012
สถานที่: ชั้น B2 และ 1 มาริน่า เบย์ แซนด์ สิงคโปร์
เวลา: 10.30 – 18.00 น. ทุกวัน
ผู้เข้าชมงาน: เฉพาะตัวแทนภาคธุรกิจและการค้าเท่านั้น
เว็บไซต์: www.osea-asia.com

 

ส่วนประชุมสัมมนา OSEA2012 International Conference
วันที่: 27 – 30 พฤศจิกายน 2012
สถานที่: ชั้น 3 มาริน่า เบย์ แซนด์ สิงคโปร์
เวลา: 27 พฤศจิกายน เวลา 13.00 – 16.00 น.

28 – 30 พฤศจิกายน เวลา 9.00 – 16.00 น.

ผู้เข้าชมงาน: เฉพาะตัวแทนภาคธุรกิจที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเท่านั้น
ลงทะเบียน: กรุณาติดต่อ Cheryl Choy ที่ cheryl@sesallworld.com เพื่อลงทะเบียน

เปิดลงทะเบียนร่วมประชุมสัมมนาในเดือนกันยายน 2012

เว็บไซต์: http://osea-asia.com/conference-highlights.html

 

t ly?At A Glance: ses’

ติดตามข่าวสารได้ใน:    

 

เกี่ยวกับสิงคโปร์ เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิส

 

สิงคโปร์ เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิส (SES) ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 จากนั้นเติบโตขึ้นเป็นลำดับจนก้าวเป็นหนึ่งในผู้จัดงานแสดงสินค้าและการประชุมที่มีนวัตกรรมและเป็นที่ยอมรับสูงสุดในเอเชีย ในฐานะผู้บุกเบิกในธุรกิจรับจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าของสิงคโปร์ งานที่จัดโดย SES ทำหน้าที่เป็นเสมือนเวทีสำคัญสำหรับหลายบริษัทที่มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในเอเชีย และด้วยผลงานด้านการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติมากมายในให้บริการในแวดวงการสื่อสาร วิศวกรรม เครื่องจักรกล และไลฟ์สไตล์ SES ยังคงพัฒนากิจกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด งานที่จัดโดย SES ดึงดูดการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการในต่างประเทศสูงสม่ำเสมอ โดยบริษัทผู้แสดงสินค้าหรือนิทรรศการจากต่างประเทศคิดเป็นเกือบร้อยละ 80 ของพื้นที่ทั้งหมด

 

SES เป็นสมาชิกของ Allworld Exhibitions Alliance เครือข่ายระดับโลกที่มีกว่า 50 สาขา อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.sesallworld.com