“ICHI”เคาะราคาไอพีโอหุ้นละ 13 บาท ชู 3 WOW!!! พร้อมเข้าเทรดใน SET 21 เม.ย.

0
314
image_pdfimage_printPrint

“อิชิตัน กรุ๊ป” หรือ “ICHI” เคาะราคาขาย IPO ที่ 13 บาท เตรียมเปิดจองซื้อ 8-11 เมษายนนี้ ใช้ช่วงเวลาร้อนแรงของซัมเมอร์ บวกฤกษ์เย็นฉ่ำหลังสงกรานต์ ลงสนามเทรดใน SET 21 เม.ย. 2557 แต่งตั้งเอเซีย พลัส เป็นแกนนำอันเดอร์ไรท์  ผนึกกำลัง  10 โบรกเกอร์ ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมโชว์ผลงาน 3 WOW  กับตำแหน่ง ผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มอันดับ 1 ประจำปี 2556  รายได้เพิ่มขึ้นถึง 65%  และกำไรเพิ่มขึ้น 188.89%

ICHI-คุณตัน ภาสกรนที

 

                        นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ  บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI   ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้ชื่อการค้าอิชิตัน กรีนที, อิชิตัน ดับเบิ้ลดริ๊งค์, อิชิตัน ดราก้อน แบล็คที, เย็นเย็น และ อิชิตัน ซีเล็คเต็ด  เผยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ1 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.1 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ ว่า บริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขายหุ้น
ไอพีโอหุ้นละ 13 บาท โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นดังกล่าวในระหว่างวันที่  8 – 11 เมษายน 2557 และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ในวันที่ 21 เมษายนนี้

สำหรับที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) คือ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ส่วนผู้จัดการการจัดจำหน่ายและ
รับประกันการจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้บริษัทได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายในครั้งนี้อีก 10 บริษัท  คือ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์
ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ  (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด (มหาชน),  บริษัทหลักทรัพย์
บัวหลวง จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน)

“บริษัทฯ ถือโอกาสอันสำคัญนี้ ขอบคุณผู้มีอุปการคุณที่ให้การสนับสนุน และชวนร่วมเป็นเจ้าของอิชิตันหนึ่งในผู้ถือหุ้น ICHI โดยให้สิทธิ์ประชาชน และนักลงทุนทั่วไปจำนวน 250 รายแรกที่ลงทะเบียนหน้างาน (โดยมีเอกสารครบ) ได้รับสิทธิ์จองซื้อหุ้น ICHI ในราคา IPO ที่ 13 บาท จำนวนไม่เกิน 5,000 หุ้น/ท่าน โดยผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องชำระเงินเพื่อจองซื้อหุ้นในวันที่ 8 เมษายน 2557  เวลา 09.00 – 12.00 น.” นายตันกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้รวมจำนวน 3,900 ล้านบาท
ไปใช้ชำระเงินกู้ยืมกรรมการและสถาบันการเงินบางส่วน รวมทั้ง ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตสินค้าเฟส 2  บางส่วน ซึ่งโรงงานตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่ง บริษัทฯ
เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานตั้งแต่ไตรมาส 2/2556 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นในไตรมาส 2/2557 สนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมเป็น 1,000 ล้านขวดต่อปี (จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 600 ล้านขวดและ 200 ล้านกล่องต่อปี) เพื่อรองรับการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในประเทศและเตรียมแผนสำหรับการส่งออกต่างประเทศหลังการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนอย่างเป็นทางการ

จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของทีมบริหาร  อิชิตันได้ออกแบบโรงงานอย่างเหมาะสม นำเทคโนโลยี “บรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อ” ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันมาใช้ร่วมกับการวางแผนการใช้นวตกรรมเครื่องจักรที่ควบคุมด้วยระบบ
ออโตเมติค ตั้งแต่ต้นสายการผลิตถึงสโตร์สินค้าปลายทาง  ส่งผลต่อมาตราฐานคุณภาพสินค้าที่มั่นใจได้  และเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมต้นทุนสินค้าได้เป็นอย่างดี  หลังโรงงานเฟส 2 แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2  จะส่งผลให้อิชิตัน มีแนวโน้มอัตรากำไรที่คาดว่าจะสูงขึ้น  ตามสัดส่วนการปรับลดการว่าจ้างผลิตลง  (OEM)     ประกอบกับนโยบายการใช้เครือข่ายดิสทริบิวชั่นถึง 3 รายอยู่ในสัญญา เพิ่มความแกร่งในการกระจายสินค้าได้ครบทุกช่องทาง ครอบคลุมหลายพื้นที่

ทีมผู้บริหารและทีมงานบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อนำเสนอรสชาติใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการขยายและเพิ่มความแกร่งของตลาดด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ให้ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทุกกลุ่ม   ใช้กลยุทธ์การการตลาดแปลกใหม่ เพื่อสร้างฐานผู้บริโภคใหม่ๆ และรักษาฐานกลุ่มลูกค้าเก่าอย่าง
แข็งแรง  ส่งผลให้ภายในปี 2556  อิชิตันเป็นผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มของประเทศด้วยส่วนแบ่ง 42%

สำหรับผลประกอบการประจำปี 2556  อิชิตันมีรายได้จากการขาย 6,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,577ล้านบาท (เติบโต 65.96 %)  มีกำไรสุทธิ 884 ล้านบาท  (ไม่รวมรายการจากอุทกภัยและการดำเนินงานที่ยกเลิก)  เพิ่มขึ้น 578 ล้านบาท (เติบโต  188.89%)   ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับตลาดเครื่องดื่มและชาพร้อมดื่มโดยรวม   ประกอบกับนโยบายการพัฒนสินค้าใหม่ ภายใต้ชื่อ “เย็น เย็น”  ได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาด

ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน)  หรือ ASP กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ว่าราคาหุ้น บริษัท อิชิตัน  กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กำหนดราคาที่ 13  บาท นั้น คิดเป็นอัตรา P/E เท่ากับ 19.2 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ สำหรับปี 2556 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้รวม 1,300  ล้านหุ้น ที่เท่ากับ 0.7 บาท ต่อหุ้น  เมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงระยะเวลา6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 2ตุลาคม 2556 จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2557 คิดเป็นอัตราส่วนเท่ากับ 30  เท่า หรือมีส่วนลด 36%

ทั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเชื่อว่าหุ้น ICHI จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปมาก เห็นจากผลตอบรับล้นหลามจากนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากอิชิตันเป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย ทีมผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ  กลยุทธ์การตลาดได้การตอบรับจากผู้บริโภคอย่างสูงเสมอมา สนับสนุนให้ “อิชิตัน” สามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในปี ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ความสามารถในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ  มีโครงสร้างเงินทุนแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วน D/E 1.2  เท่า (คำนวณตามข้อกำหนดของธนาคารที่ไม่รวมเงินกู้ยืมกรรมการ)  คาดว่าจะ

ลดลงอีกหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ส่งผลให้อิชิตันมีผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดดในระยะเวลารวดเร็วและต่อเนื่อง   ประกอบกับโอกาสที่เพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจในตลาด AEC  จึงถือได้ว่าอิชิตันเป็นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งมาก   มั่นใจ ICHI ซึ่งกำลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นอีกบริษัทที่ได้รับความสนใจและได้รับการตอบรับจากนักลงทุน

 

 

 

ข้อมูลบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อการค้า อิชิตัน
กรีนที, อิชิตัน ดราก้อน แบล็คที, เย็น เย็น และ อิชิตัน ซีเล็คเต็ด  ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2553 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 500 ล้านบาท มุ่งเน้นธุรกิจเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียวเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มคุณภาพของประเทศไทย

ปัจจุบันอิชิตันกระจายสินค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) ผ่านตัวแทนผู้จัดจำหน่ายสินค้า 3 ราย ได้แก่ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไอแอมกรีนที จำกัด และบริษัท บุญรอดเอเชีย จำกัด

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 บริษัทฯมีกำลังการผลิตแบบขวดรวม 3 สายการผลิต หรือคิดเป็น 600 ล้านขวดต่อปี และกำลังการผลิตแบบกล่องยูเอชทีรวม 2 สายการผลิต หรือคิดเป็น 200 ล้านกล่องต่อปี เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคที่สูงขึ้น โดยผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มทั้งหมดจำนวน 21 รสชาติ