ไตร พร็อพเพอตี้ สุดฮ็อต เดินหน้ารุกหนักตลาดคอนโดภูเก็ต รับดีมานด์โตต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวโปรเจก “สเคป เอ็กซ์ ทู” ที่ตั้งติด Shopping Street สุดฮิปใหม่ล่าสุด

0
291
image_pdfimage_printPrint

กลุ่ม “ไตร พร็อพเพอตี้” สุดฮ็อต เดินหน้าขยายโปรเจกคอนโดมิเนียมไลฟ์สไตล์ใหม่บนพื้นที่ทองจังหวัดภูเก็ต หลังประสบความสำเร็จอย่างมากในการขายโครงการแรก “สเคป ภูเก็ต” หมดภายใน 3 สัปดาห์ ล่าสุดเตรียมเปิด “สเคป เอ็กซ์ ทู” คอนโดฯใหม่ ติด Boat Avenue ช็อปปิ้งสตรีทสุดฮิปใหม่ล่าสุด ย่านเชิงทะเล ใกล้กับย่านไฮเอ็นลากูน่า โดยยังคงเน้นสไตล์โมเดิร์น มินิมอลลิสต์ เพราะตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเสริมความแตกต่างไอเดียเก๋ กับการวางรูปแบบอาคารแบบ “กรีนอาคิเทคเจอร์ส” และ “อิเนอร์จี เซฟวิ่ง” ที่นำเสนอพร้อมห้องชุดตกแต่งเฟอร์ครบ 191 ยูนิต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยจริง ราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท เปิดจองตั้งแต่ 15 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป

 

นายอดิศร วิเวกานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการโครงการคอนโดมิเนียมในสไตล์ โมเดิร์น มินิมอลลิส ที่ชื่อว่า “ZCAPE Condominium” เมื่อประมาณกลางปี 2555 ที่ผ่านมา เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่บริเวณตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ที่ถือว่าเป็นย่านธุรกิจไฮเอนสำหรับการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด ประกอบกับโครงการมีรูปแบบการอยู่อาศัยที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งด้านดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ไปจนถึงระดับราคาขาย ทำให้สามารถปิดการขายโครงการได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ กำลังจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ที่ชื่อ “สเคป เอ็กซ์ ทู คอนโดมิเนียม” (Zcape X2 Condominium) อีกหนึ่งโครงการบนทำเลทองในย่านเดียวกัน ซึ่งโครงการใหม่นี้จะ ติด Boat Avenue ย่านช็อปปิ้งสตรีทสุดฮิปใหม่ล่าสุดด้วย ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียม ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะมีการออกแบบดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานรวมถึงให้เฟอร์นิเจอร์ครบ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ Ffpมีราคาขายเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท ส่วนการเปิดจองจะเริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป

 

“ ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ถือว่ามีความน่าสนใจในด้านการลงทุนเป็นอย่างมาก ด้วยพื้นที่ของภูเก็ตเอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงในระดับโลกอีกแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่อัตราการเติบโตของจังหวัดภูเก็ตเอง นอกจากจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม และอาศัยอยู่ในจังหวัดเป็นจำนวนมากแล้ว จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีทั้งผู้อยู่อาศัยดั้งเดิม และผู้ที่เข้ามาประกอบอาชีพ หรือทำงานในพื้นที่มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต จะเป็นแหล่งการค้าและการลงทุนที่สำคัญระดับภูมิภาค หลังจากประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้โครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม เริ่มได้รับความสนใจ และเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ดังนั้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพ และสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งลูกค้าทั่วไป ที่ต้องการอยู่อาศัยจริง ไปจนถึงเพื่อการท่องเที่ยวด้วย ยิ่งทำให้มีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นนักลงทุนสนใจลงทุนมากขึ้นนั่นเอง” นายอดิศร กล่าว

 

 

 

โครงการ ZCAPE X2 CONDOMINIUM Phuket ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-2-45 ไร่ บนถนนเชิงทะเล-บ้านดอน ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับโครงการแรก ที่ประสบความสำเร็จในการขายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความโดดเด่นและเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ใกล้ย่านโรงแรมและสถานที่พักตากอากาศชั้นนำที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต จุดเด่นของโครงการใหม่นี้ อยู่ติดกับโครงการ Boat Avenue Shopping Street ซึ่งเป็น โปรเจกคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์โมเดิร์นสุดฮิปแห่งใหม่ล่าสุดของจังหวัด และอยู่ใกล้กับวิลล่า มาร์เก็ต รวมถึงอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ร้านอาหาร โรงเรียน บีชคลับ สถานีตำรวจ และห่างจากสนามบินเพียง 20 นาที เป็นต้น

โดยอาคาร ได้รับการออกแบบเป็นอาคารสูง 7 ชั้น พื้นที่จอดรถชั้น 1 มีจำนวนยูนิตการอยู่อาศัยทั้งสิ้น 191 ยูนิต มีประเภทห้อง 3 ประเภทคือ 1 ห้องนอนแบบ Lake View ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.55-31.09 ตร.ม. และ 1 ห้องนอนแบบ Pool View ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31.86-36.87 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 41.05-41.11 ตร.ม. โดยทุกห้องมีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบ รวมถึงภายในโครงการมีสาธารณูปโภคครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่แยกส่วนสำหรับเด็ก และมีโซนจากุซซี่ ที่สามารถมองเห็นวิวทิวเขาได้, Pool Lounge สำหรับรองรับกิจกรรมพบปะสังสรรค์, ห้องฟิตเนสที่สามารถชมวิวจากทัศนียาภาพของธรรมชาติโดยรอบอาคาร, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.จากเจ้าหน้าที่และระบบ CCTV เป็นต้น

 

นอกจากนี้ โครงการได้รับการออกแบบแนวคิด “Design Serving Your Desire” หรือมิติการใช้ชีวิตไม่ได้มีเพียงด้านเดียว ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่ถือว่าตอบสนองไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เป็นครั้งแรกในเกาะภูเก็ตที่มีการผสมผสานไอเดียการอยู่อาศัย ให้ผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์การช็อปปิ้งสตรีทอย่างลงตัว ภายใต้การออกแบบสถาปัตยกรรมในแบบ Green Architecture ที่ใส่ใจเรื่องการใช้พลังงานอย่างมีคุณค่า หรือ Energy Saving ที่วางตัวอาคารในแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ตลอดทั้งวันแทบจะไม่มีห้องพักอาศัยใดที่ประทะกับแนวแสงแดดที่ร้อนแรงโดยตรง นอกจากนี้ตัวอาคารยังได้รับการออกแบบให้ใส่ใจเรื่องของฟังก์ชั่น และการจัดพื้นที่เพื่อรองรับกิจกรรมของผู้อยู่อาศัยในแต่ละวัน อาทิ การจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการจอดจักรยาน เพื่อลดมลพิษและการลดทรัพยากรที่สิ้นเปลือง การจัดเตรียมห้องขยะสำหรับขยะรีไซเคิล ในขณะที่สภาพแวดล้อมรายรอบอาคารอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติที่งดงาม อาทิ ทิศเหนือติดวิวทะเลสาบที่สวยงาม ส่วนทิศใต้มีวิวสระว่ายน้ำที่ยาวกว่า 60 เมตร ที่โอบล้อมด้วยวิวของทิวเทือกเขา ที่มีต้นไปไม้และธรรมชาติอันเขียวขจี เป็นต้น

 

ด้านนายชัยวัฒน์ ตันติวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารด้านการเงินและการลงทุน บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า กลุ่มไตร พร็อพเพอตี้ วางแผนที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมและที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ในปี 2556 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไว้อีกอย่างน้อย 2-3 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,200  – 15,00 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งพื้นที่เดิมของพันธมิตรในกลุ่มผู้ถือหุ้น และพื้นที่ใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมได้ นอกจากนี้อาจจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่หัวเมืองต่างจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ที่เป็นย่านธุรกิจและการค้าและการท่องเที่ยวสำคัญในระดับภาคของประเทศ สงขลา-หาดใหญ่, สุราษฏร์ธานี เป็นต้น สำหรับพื้นที่จังหวัดอื่น อาทิ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจจะชะลอแผนการลงทุน เพื่อดูทิศทางความต้องการของตลาดที่ชัดเจนก่อน ส่วนในกรุงเทพนั้น กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่อีก 1 – 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 500 – 600 ล้านบาท โดยเม็ดเงินสำหรับลงทุนโครงการใหม่ๆ นั้น มูลค่าการลงทุนส่วนใหญ่จะใช้เงินจากกลุ่มของผู้ถือหุ้น และอาจมีบางส่วนที่จะได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน เพื่อให้พัฒนาได้หลายโครงการมากยิ่งขึ้นด้วย