อีกก้าวแห่งความทันสมัยของการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ (เอทีเอ็ม)ในเอเชียแปซิฟิค
แอร์บัสโปรสกายได้ประกาศตัดสินใจก่อตั้งสำนักงานใหม่ที่สิงคโปร์โดยเริ่มจากเดือนเมษายน 2557
ประกาศนี้มีขึ้นหนึ่งปีภายหลังสัญญาร่วมมือด้านการวิจัย (อาร์ซีเอ) ระหว่างองค์การการบินพลเรือนสิงคโปร์ (ซีเอเอเอส) กับแอร์บัสโปรสกายเพื่อร่วมพัฒนาแนวคิดในการปฏิบัติการสำหรับการบริหารจัดการสภาพคล่องการจราจรทางอากาศ (เอทีเอฟเอ็ม)* บนพื้นฐานของการตัดสินใจร่วม (ซีดีเอ็ม)
พอล-แฟรงค์ บิชู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแอร์บัสโปรสกาย กล่าวว่า “เอเชียแปซิฟิคเป็นภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของโลกด้านการเดินทางทางอากาศ การเปิดสำนักงานใหม่ในสิงคโปร์เป็นอีกก้าวของการตัดสินใจที่สมเหตุผลเพื่อบรรลุข้อตกลงร่วมโดยเริ่มต้นกับองค์การการบินพลเรือนสิงคโปร์ และผู้ให้บริการด้านการเดินทางทางอากาศรายอื่นในเรื่องความทันสมัยของการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศในภูมิภาค”
แอร์บัสโปรสกายได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในหลายโครงการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคโดยมุ่งมั่นที่จะขยายขีดความสามารถการจราจรทางอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพการบินและปรับปรุงการเข้าถึงสนามบิน ตัวอย่างเช่น ในออสเตรเลีย ภายหลังการปรับใช้การบริหารจัดการสภาพคล่องการจราจรทางอากาศ (เอทีเอฟเอ็ม) และการตัดสินใจร่วม (ซีดีเอ็ม) กับการให้บริการทางอากาศเมื่อปี 2555 ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่าระยะเวลาที่ใช้ในการบินลดลงห้านาทีสำหรับการเดินทางระหว่างเมลเบิร์นกับซิดนีย์ซึ่งเป็นคู่เมืองที่มีการเดินทางทางอากาศหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับห้าของโลก ระยะเวลาการลอยตัวในอากาศที่ลดลงเป็นผลให้การเผาผลาญเชื้อเพลิงลดลงตามไปด้วย
ตามประมาณการจากทั่วโลก คาดว่าการพัฒนาระบบการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศให้ทันสมัยจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญด้านสภาพแวดล้อม อาทิ ความสามารถในการประหยัดเชื้อเพลิง 13 พันล้านลิตรต่อปีซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 29 ล้านตันต่อปี ตลอดจนลดความล่าช้าลงได้ประมาณสี่ล้านชั่วโมง
