แอร์บัสแถลงสถิติใหม่ของยอดสั่งซื้อ การส่งมอบ และที่รอส่งมอบ ผู้นำตลาดเครื่องบินลำตัวกว้างและทางเดินเดี่ยว

0
309
image_pdfimage_printPrint

แอร์บัสประสบความสำเร็จในการทำสถิติใหม่ในการส่งมอบเครื่องบินเชิงพาณิชย์ในปีพ.ศ.2556 ด้วยการส่งมอบเครื่องบินจำนวน 626 ลำ ให้แก่ลูกค้าจำนวน 93 ราย (ลูกค้าใหม่จำนวน 15 ราย) และยอดการสั่งซื้อทั้งหมด 1,619 ลำ นับเป็นสถิติใหม่ที่มากกว่าของปีพ.ศ.2554 ถึง 11 ลำ (เอ320ซีโอ 377 ลำ เอ320นีโอ 876 ลำ เอ330 77 ลำ เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี 239 ลำ เอ380 50 ลำ) ในปีนี้แอร์บัสยังได้รับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าสูงที่สุด (มูลค่าสุทธิ 240.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยในช่วงปลายปี ยอดเครื่องบินที่รอการส่งมอบมีจำนวนสูงถึง 5,559 ลำ มีมูลค่าทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่า 809 พันล้านดอลลาห์สหรัฐฯ หรือใช้เวลาในการผลิต 8 ปี

 

การส่งมอบเครื่องบินในปี พ.ศ.2556 สูงติดต่อกันเป็นปีที่ 12 ทำลายเป้าหมายที่ตั้งไว้และสูงกว่าสถิติที่ได้ตั้งไว้ในปีพ.ศ.2555 (จำนวน 588 ลำ) โดยเพิ่มมากขึ้น 38 ลำ

 

ในปลายปีพ.ศ. 2556 แอร์บัสมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกในกลุ่มเครื่องบินที่มีที่นั่งเกินกว่า 100 ที่นั่งถึงร้อยละ 51 การตัดสินใจของลูกค้าที่หันไปสนใจกลุ่มเครื่องบินขนาดใหญ่ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น เอ321  เอ330-300 เอ350-1000 และ เอ380 ซึ่งเป็นผลดีต่อรายได้ของแอร์บัส ทำให้แอร์บัสเข้าไปสู่ตลาดเครื่องบินทั้งประเภททางเดินเดี่ยว และเครื่องบินลำตัวกว้าง

 

ในช่วงระหว่างปีที่ผ่านมานั้น ยอดการสั่งซื้อเครื่องบิน เอ320นีโอ มีจำนวน 2,600 ลำ ซึ่งดีเกินความคาดหมาย ในขณะที่ เอ320ซีโอ ที่ยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เครื่องบินตระกูลนีโอได้ทำการเปิดตัวมา ด้วยยอดขายกว่า 1,000 ลำ ส่วนเครื่องบิน เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี ก็สามารถบุกตลาดโดยเฉพาะได้รับคำสั่งซื้อเป็นครั้งแรกจากประเทศญี่ปุ่น และเอ380 ยังคงครองตลาดเครื่องบินขนาดใหญ่ด้วยยอดสั่งซื้อจำนวน 50 ลำ

 

การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จของแอร์บัสได้ส่งสัญญาณไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น กล่าวคือในปีพ.ศ.2556 เครื่องบิน เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลบี ทำการบินครั้งแรกโดยการทดสอบการบินของเครื่องบินทั้ง 2 หมายเลขนั้นมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยสามารถเก็บชั่วโมงบินได้กว่า 800 ชั่วโมง เป้าหมายสำคัญในไตรมาสที่3 คือการได้รับประกาศนียบัตรรับรองและพร้อมที่จะให้บริการในช่วงไตรมาสที่4 ส่วนการผลิตเครื่องบิน เอ330 ซึ่งเป็นเครื่องบินพิสัยระยะไกลสามารถคว้าสถิติใหม่สูงสุดที่ 10 ลำต่อเดือน และเครื่องบินทางเดินเดียวยังคงมีอัตราการผลิตคงที่ที่ 42 ลำต่อเดือน

 

ในปีพ.ศ.2556 แอร์บัสได้ส่งมอบเครื่องบินทหารทั้งหมด 31 ลำ ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศเอนกประสงค์ เอ330 เอ็มอาร์ทีที จำนวน 7 ลำ และเครื่องบิน เอ400เอ็ม จำนวน 2 ลำ สู่กองทัพอากาศฝรั่งเศส ซึ่งแผนการส่งมอบดังกล่าวกำลังดำเนินการต่อเนื่องด้วยดี

 

ในปีพ.ศ.2556 แอร์บัสได้มีการจ้างงานทั้งสิ้น 3,000 คน

 

“ผมขอขอบคุณทีมงานแอร์บัสทุกคนที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของบริษัทเรามีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีความคล่องตัว และเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เรากำลังผลิตเครื่องบินที่มีจำนวนสูงสุดเท่าที่เคยมีมา และการขายเครื่องบินของเราอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม” มร.ฟาบริซ เบร่จิเย่ร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์บัส กล่าว “ผลของสิ่งที่กล่าวมานี้เป็นการทำผลกำไรให้แก่เราเป็นอย่างดี ทั้งนี้ผมมีความภูมิใจที่แอร์บัสแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไป ตำแหน่งผู้นำทางเครื่องบินทางเดินเดี่ยว และเครื่องบินลำตัวกว้างของเรานั้นจะขยายกว้างออกไปอีก ส่วนในปีพ.ศ.2557 นั้นจะเป็นปีที่เราให้ความสำคัญกับเครื่องบิน เอ320นีโอ และการเปิดให้บริการของเครื่องบิน เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี”