ออราเคิลเผยผลการรายงาน “การออกแบบแพลตฟอร์ม M2M สำหรับโลกที่เชื่อมต่อถึงกัน” ซึ่งช่วยรองรับการให้บริการ และขยายช่องทางการเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กร

0
241
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 25 ธันวาคม 2555 ออราเคิลเผยรายงาน “การออกแบบแพลตฟอร์ม M2M สำหรับโลกที่เชื่อมต่อถึงกัน” ระบุ บริษัทต่างๆ ควรขยายการใช้ข้อมูล M2M เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และข้อมูลข่าวกรองทั่วทั้งองค์กร การใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพิ่มมากขึ้น และปกป้องข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับโครงการ M2M

คริส เบเกอร์ รองประธานอาวุโสฝ่าย ISV, OEM และงานขาย Java พันธมิตรและช่องทางจัดจำหน่ายของออราเคิล กล่าวว่า  เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ มีราคาถูกลง แต่มีสมรรถนะสูงขึ้น อีกทั้งค่าบริการโทรศัพท์มือถือก็ถูกลงด้วยเช่นกัน ดังนั้นอุปกรณ์เชื่อมต่อจึงมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงข้อมูลที่สร้างขึ้นจากอุปกรณ์เหล่านั้น  ผลงานวิจัยเรื่อง “การออกแบบแพลตฟอร์ม M2M สำหรับโลกที่เชื่อมต่อถึงกัน” จะทำให้ผู้ใช้เห็นถึงการเปลี่ยนย้ายโฟกัสไปสู่การใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว รวมถึงการใช้รูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นผลมาจากความแพร่หลายของอุปกรณ์เชื่อมต่อ

“ตั้งแต่ Java บนอุปกรณ์ไปจนถึงระบบแบบปรับแต่งเป็นพิเศษ (Engineered Systems) ของ
ออราเคิลในดาต้าเซ็นเตอร์ แพลตฟอร์ม M2M แบบครบวงจรของออราเคิลจะช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนของกระบวนการรวบรวม จัดเก็บ จัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจากอุปกรณ์เชื่อมต่อ ควบคู่ไปกับการลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลและการรักษาความครบถ้วนสมบูรณ์และความปลอดภัยของข้อมูล”

งานวิจัยชิ้นนี้จะช่วยยืนยันแนวโน้มที่เกิดขึ้นจริงสำหรับความต้องการโซลูชั่นในตลาด M2M รวมถึงโอกาสที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการใช้งานระหว่างธุรกิจกับธุรกิจกับผู้บริโภค (business-to-business-to-consumer) และวิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนการใช้งานดังกล่าว คริส เบเกอร์ กล่าว


สำหรับผลการวิจัยในหัวข้อ “การออกแบบแพลตฟอร์ม M2M สำหรับโลกที่เชื่อมต่อถึงกัน” นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัท Beecham Research ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ระบบ M2M และดำเนินการในนามของออราเคิล ซึ่งได้สำรวจการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังโครงการการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ หรือ ‘Machine to Machine’ (M2M) รวมถึงผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่มีต่อข้อกำหนดของโซลูชั่น โดยผลการวิจัยระบุว่าข้อมูล M2M จากอุปกรณ์เครื่องมือภาคสนามที่ติดตั้งไว้ในที่ห่างไกลถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางเพื่อจุดประสงค์สำคัญๆ ในเชิงกลยุทธ์ รวมถึงการสร้างมูลค่าสำหรับส่วนงานต่างๆ ทั่วทั้งองค์กร และจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับในการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในตลาด ควบคู่ไปกับการโอกาสทางการแข่งขันสำหรับองค์กรในตลาดสำคัญๆ

 

นอกจากนี้การมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์และการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลเพิ่มมากขึ้นในโครงการ M2M ขณะที่ข้อมูลถูกผนวกรวมและใช้งานร่วมกันเพิ่มมากขึ้นในแผนกและส่วนงานธุรกิจต่างๆ

 

Machine to Machine มีความสำคัญมากขึ้นทั่วทั้งองค์กร

โรบิน ดุ๊ค-วูลลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Beecham Research กล่าวว่า ตลาด M2M มีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการติดตั้งโซลูชั่น M2M แบบครบวงจร ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีความยุ่งยากซับซ้อน

การวิจัยพบว่าปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังโครงการ M2M กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดย 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การรองรับบริการและช่องทางรายได้ใหม่ๆ คือปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนโครงการ M2M ในขณะที่การใช้ข้อมูล M2M ในการดำเนินงานยังคงมีความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

 

นอกจากนี้องค์กรต่างๆ เริ่มมีความสนใจที่จะใช้ข้อมูล M2M เพิ่มมากขึ้น โดยต้องการนำ M2M ใสรองรับการตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้ทราบถึงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้า รวมถึงประสิทธิภาพในการให้บริการภาคสนาม และจะสามารถปรับแต่งสินค้าและบริการตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า

 

85% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า องค์กรมีจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงการจัดการข้อมูล M2M จำนวนมหาศาล เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพและค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแอพพลิเคชั่นต่างๆ อย่าง มิเตอร์อัจฉริยะ และระบบสื่อสาร/ระบบวินิจฉัยภายในรถยนต์ สร้างข้อมูลเพิ่มมากขึ้น

การใช้ระบบประมวลผลเหตุการณ์ที่ซับซ้อน (Complex Event Processing – CEP) ร่วมกับข้อมูล M2M จะช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลข่าวกรองแบบเรียลไทม์ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการอย่างทันท่วงทีตามปัจจัยที่กำหนด โดย 65 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ที่สูงมากในโอกาสของ CEP สำหรับแอพพลิเคชั่น B2B และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแอพพลิเคชั่น B2B2C

 

ทั้งนี้ อาจหมายรวมถึงกรณีที่มีการใช้แหล่งข้อมูลหลายๆ แหล่ง เพื่อรองรับกระบวนการตัดสินใจแบบอัตโนมัติ โดยไม่มีการแทรกแซงของบุคลากร เช่น การใช้ข้อมูลสภาพอากาศเพื่อบริหารจัดการระบบชลประทานที่ใช้ในการเพาะปลูก หรือการจัดทำโปรไฟล์พฤติกรรมบุคคลและการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการจดจำใบหน้าเพื่อใช้ในการรักษาความปลอดภัย

 

การสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับข้อมูล M2M และการผนวกรวมอย่างกลมกลืนกับระบบไอทีอื่นๆ ส่งผลให้ 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ระยะเวลาหยุดทำงาน (Downtime) ที่ลดลงใน M2M นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง

 

การปกป้องข้อมูล M2M มีความสำคัญกับองค์กรอย่างไร?

ผลการรายงานระบุว่า คุณประโยชน์และปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้การจัดเก็บ จัดการ ปกป้อง และวิเคราะห์ข้อมูลจากอุปกรณ์เชื่อมต่อมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นภายในองค์กร โดย 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า M2M มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร อีก 50% ระบุว่า M2M จะช่วยผนวกรวมเข้ากับระบบไอที และ 45% ระบุว่า M2M จะช่วยประสานงานร่วมกับพันธมิตรในห่วงโซ่มูลค่าที่ซับซ้อนมากขึ้น

 

นอกจากนี้การขับเคลื่อนโซลูชั่น M2M ในระบบคลาวด์ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากซับซ้อนได้ โดย 90% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุ “ระบบคลาวด์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงการ M2M” ในขณะที่ 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการมีสภาพแวดล้อมในการพัฒนาซอฟต์แวร์และภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมแบบเดียวกัน เช่น Java สำหรับทุกส่วนประกอบของโซลูชั่น M2M

 

ไบรอัน เคสเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SeeControl กล่าวว่า ลูกค้าของเราใช้ SeeControl Nexus Cloud เพื่อออกแบบ และเริ่มต้นธุรกิจที่ใช้ M2M ในกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะหลายๆ กลุ่ม เนื่องจากเราใช้เทคโนโลยีของออราเคิลอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่อุปกรณ์ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ ลูกค้าจึงมีความมั่นใจที่จะเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว และพัฒนาบริการ M2M ที่แปลกใหม่เพื่อให้สอดรับกับความคิดเห็นของผู้ใช้ และลูกค้าทราบดีว่าระบบคลาวด์ของเรามีความปลอดภัยระดับองค์กรสูงสุด รวมไปถึงความยืดหยุ่นในการปรับขนาด และประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

 

 

เกี่ยวกับออราเคิล
ออราเคิล (NASDAQ: ORCL) เป็นบริษัทที่นำเสนอระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทางด้านธุรกิจแบบครบวงจรบนมาตรฐานเปิดที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดในโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออราเคิลมีอยู่ที่ oracle.com