“ส.อ.ท. จับมือ ก. พลังงาน จัดงานด้านการอนุรักษ์พลังงานครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “Thailand ESCO Fair 2014”

0
228
image_pdfimage_printPrint

“ส.อ.ท. จับมือ ก. พลังงาน จัดงานด้านการอนุรักษ์พลังงานครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี

Thailand ESCO Fair 2014” ประกาศเจตนารมณ์ ขับเคลื่อนการอนุรักษ์พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม

เผย!! ปีที่ผ่านมาเกิดการลงทุนในโครงการมูลค่ามากถึง 6,400 ล้านบาทต่อปี

 Pic_Booth ร่วมงาน Thailand ESCO Fair 2014_10

สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน (พพ.) จัดงานด้านการอนุรักษ์พลังงานครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่องาน Thailand ESCO Fair 2014 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Create more Saving with Professional ESCO” หวังสร้างมิติใหม่ ดึงภาครัฐ – เอกชน ร่วมขับเคลื่อนการอนุรักษ์พลังงาน ในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งสู่การลดต้นทุนการผลิตให้กับประเทศ พร้อมประกาศเดินหน้าแผนการดำเนินงานในอนาคตงานที่จะมุ่งเน้นพัฒนาความเป็นมืออาชีพและกำกับดูแลควบคุมคุณภาพการเป็นบริษัทจัดการพลังงาน ตลอดจนการพัฒนามาตรฐานการตรวจวัดและพิสูจน์ผลประหยัด (M&V) ที่เหมาะสมกับในประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล IPMVP (International Performance Measurement and Verification Protocol)

 

ปัจจุบันปัญหาเรื่องราคาน้ำมันและพลังงานต่างๆ เป็นปัญหาใหญ่ใกล้ตัว และมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ด้วยสาเหตุหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความต้องการในการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น การจัดหาแหล่งพลังงานฟอสซิลที่มีอุปสรรคมากขึ้น ประเด็นท้าทายด้านพลังงานจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกๆ ประเทศในโลก รวมถึงประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีการบริโภคพลังงานในระดับที่สูงแต่มีทรัพยากรพลังงานในประเทศจำกัด

 

นายวีระพล  จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานได้ตระหนักถึงความสำคัญและประเด็นท้าทายด้านพลังงานเป็นอย่างดี  โดยได้มีการสร้างเสริมความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศเพื่อให้มีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่เหมาะสมกับศักยภาพของประเทศ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน

 

“เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ ของกระทรวงพลังงาน บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานในระดับสูงและจำเป็นที่ต้องมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ กระทรวงพลังงานจึงกำหนดแนวนโยบายที่จะให้มีเครื่องมือส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการดำเนินงาน ซึ่งมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกบริษัทจัดการพลังงาน หรือที่เรียกว่า ESCO นั้น ถือเป็นมาตรการหนึ่งที่กระทรวงพลังงานได้ให้ความสำคัญ และให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้มีความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการดำเนินธุรกิจ และการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานด้วยบริการของบริษัทจัดการพลังงาน ซึ่งจะมีการรับประกันผลอย่างเป็นรูปธรรม และกระทรวงพลังงานจะยังคงมุ่งเน้นการส่งเสริม ESCO ให้เป็นมาตรการหลักที่มีการดำเนินการต่อไปในระยะยาว โดยจะส่งเสริมให้บริษัท ESCO เพิ่มการให้บริการที่มีความเป็น

 

 

 

มืออาชีพมากขึ้น  ขยายผลการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานแบบ ESCO ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งภาคเอกชนและราชการ รวมถึงมีมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นตลาดและธุรกิจ ESCO ให้มีการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนตามศักยภาพที่ปรากฏ ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลให้ประเทศมีใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาวต่อไป” นายวีระพล กล่าว

 

นายวีระศักดิ์ โฆสิตไพศาลรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับงาน THAILAND ESCO FAIR 2014 ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกบริษัทจัดการพลังงาน ภายใต้การสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และยังถือเป็นงานสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการ และเป็นเวทีกลางในการพบปะกันระหว่าง บริษัทจัดการพลังงาน และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จด้านการอนุรักษ์พลังงานด้วยบริการแบบมืออาชีพของบริษัทจัดการพลังงาน รวมถึงสถาบันการเงิน หรือหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนที่ให้บริการด้านการอนุรักษ์พลังงานด้วย

 

“งานครั้งนี้นับเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีความสนใจเรื่องการอนุรักษ์พลังงานได้พบกับเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงานใหม่ๆ และการลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงได้พบกับบริการของบริษัทจัดการพลังงาน ที่สามารถนำมาพัฒนาศักยภาพการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งและสามารถสร้างผลประกอบการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันกับตลาดโลกในยุคปัจจุบัน โดยวัตถุประสงค์หลักของการจัดงานครั้งนี้ คือ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้กลไกบริษัทจัดการพลังงานในการดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงานเพิ่มมากขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สถานประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมและธุรกิจ ในการตัดสินใจเลือกใช้กลไกบริษัทจัดการพลังงานในการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานอย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้คาดหวังว่าจะสามารถส่งผลให้ผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม อาคาร รวมทั้งบริษัทจัดการพลังงาน ได้รับประโยชน์ และเกิดการเชื่อมโยงกันอย่างครบวงจรเพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพด้านการประหยัดพลังงานในธุรกิจของตัวเอง” นายวีระศักดิ์ กล่าว

 

            ด้าน นายหิน นววงศ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม ส.อ.ท. เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้กลไกบริษัทจัดการพลังงานในการดำเนินโครงการด้านอนุรักษ์พลังงาน ที่ผ่านมา ว่า พพ. ได้สนับสนุน สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม ส.อ.ท. เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้กลไกบริษัทจัดการพลังงานในการดำเนินโครงการด้านอนุรักษ์พลังงานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนตั้งแต่ปี 2550  ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 7 ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเผยแพร่ผลงานความสำเร็จและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนโดยใช้กลไก ESCO ในรูปแบบ ESCO Business Matching ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค การสร้างเครือข่ายระหว่างผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจ ESCO ทั้งในและต่างประเทศ มีการอบรมให้ความรู้ อีกทั้งได้ผลักดันให้มีการจัดตั้งสมาคมบริษัทจัดการพลังงานของประเทศไทยขึ้น ซึ่งเป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมกลุ่มกันของผู้ประกอบธุรกิจ ESCO เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกสมาคมและสามารถสร้างความเข้มแข็งในการดูแลอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้ สถาบันพลังงานได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัทจัดการพลังงานไปแล้วจำนวน 57 ราย และสถาบันการเงิน 5 แห่ง โดยสามารถสรุปผลการดำเนินงานเฉลี่ยของทุกปีที่ผ่านมาเกิดการลงทุนมูลค่า

 

 

 

ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา พบว่า เกิดการลงทุนมากที่สุดโดยมีมูลค่า 6,400 ล้านบาท เนื่องจากมีโครงการติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ มูลค่าประมาณ 5,400 ล้านบาท ซึ่งสามารถประหยัดพลังงานได้ 22.21 ktoe หรือประหยัดได้ 1,400 ล้านบาท โดยมีจำนวนมาตรการในภาคอุตสาหกรรม ที่มีการดำเนินการมากที่สุด คือ ระบบอากาศอัด (Air Compressor) รองลงมา คือ ระบบแสงสว่าง (Lighting) และเครื่องทำน้ำเย็นประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Chiller) ตามลำดับ ส่วนมาตรการในภาคอาคารธุรกิจที่ได้ดำเนินการมากที่สุด คือ ระบบแสงสว่าง (Lighting) รองลงมา คือ เครื่องทำน้ำเย็นประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Chiller) และอุปกรณ์ปรับความเร็วรอบมอเตอร์ (Variable Speed Drive: VSD) ตามลำดับ

 

“สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกบริษัทจัดการพลังงาน นั้น เราจะมุ่งเน้นพัฒนาความเป็นมืออาชีพและกำกับดูแลควบคุณภาพการเป็นบริษัท       จัดการพลังงาน ตลอดจนการพัฒนามาตรฐานการตรวจวัดและพิสูจน์ผลประหยัด (M&V) ที่เหมาะสมกับในประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล IPMVP (International Performance Measurement and Verification Protocol) อีกด้วย” นายหิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม การจัดงาน Thailand ESCO Fair ในวันนี้ เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งซึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจ ESCO ให้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำผลงานความสำเร็จต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานด้วยกลไกของ ESCO มาเผยแพร่สู่สาธารณชน เพื่อสร้างความมั่นใจในประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกอบการที่จะได้รับจากการใช้บริการ ESCO ในการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน รวมถึงยังเป็นการเปิดโอกาสให้ได้มีการพบปะพูดคุยกันระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจ ESCO เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินโครงการด้านอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเป็นการผลักดันให้เกิดการดำเนินการและการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม…//