สุดยอดพื้นที่สร้างไอเดียการทำงานสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่

0
1148
image_pdfimage_printPrint

พื้นที่สร้างไอเดียสำหรับคนรุ่นใหม่ Co-working Space และวัฒนธรรมการทำงานนอกบ้านกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เดียวนี้ร้านกาแฟไม่ใช่แค่การเข้าไปอ่านหนังสือหรือนั่งพูดคุยกันเท่ากัน ทว่าร้านกาแฟกลับเป็นที่ประชมสังสรรค์ในหลายๆ โอกาส เหมือนกับว่าเรากำลังย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้ร้านกาแฟกลายเป็นที่พบปะพูดคุยกันทุกเรื่องต่างกันตรงที่ เดี๋ยวนี้เขามีไวไฟให้ใช้ฟรี ขนมอร่อยๆ เพียบ ที่นั่งนุ่มสบาย และแอร์เย็นฉ่ำตลอดวัน ไหนดูซิว่ามีที่ไหนให้คุณหิ้วแล็ปท้อป และชวนเพื่อนไปนั่งคุยงานกันได้อย่างสบายใจบ้าง

1. jones the grocer
อาจจะไม่ใช่หนึ่งในสถานที่ซึ่งนึกถึงเป็นอันดับแรก เพราะดูเป็นร้านอาหารนิดหนึ่ง แต่เขาก็มีกาแฟขายด้วย
และจัดโซนนิ่งเป็นคาเฟ่เล็กๆ ด้วยนะ ที่สำคัญเขามีไวไฟให้ใช้ฟรีแบบไม่เสียค่าบริการ และใช้ได้จนร้านปิดเลย!
พนักงานก็อัธยาศัยดี ไม่เกี่ยง และไม่หวงที่หากจะนั่งทั้งวัน ถ้าหิวสั่งอาหารจานหลักมากินต่อก็ได้ เด่นดังเรื่องสเต็กเนื้อวัว
เพระาร้านนี้เขามีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย ตัวร้านก็ตกแต่งแบบเป็นห้องครัว ออกแนวอินดัสเทรียลหน่อยๆ
แต่มีความน่านั่งอยู่มาก แล้วรู้หรือป่าวว่าที่นี่มีเบียร์ขาย ไวน์ก็ด้วย รุ้ใช่มั้ยว่าถ้าอยากให้งานเรามีสีสัน ควรจะสั่งอะไรมาดื่ม…

2.True Coffee & True Sphere
เป็นหนึ่งในร้านกาแฟของคนไทยที่ไม่ควรมองข้าม True Coffee จะทำให้การทำธุรกรรมในร้านTrue shopของคุณผ่อนคลายลงไปมาก เพราะในระหว่างรอคิว คุณสามารถสั่งเครื่องดื่ม ขนม หรือแม้อาหารหนักๆ อย่างโทสต์มารับประทานได้ โดยไม่ต้องทนหิวหรือเดินออกไปกินข้างนอก จุดเด่นของร้าน True Coffee มีเครื่องดื่มราคาประหยัดในรสชาติที่เราคุ้นเคย เช่น กาแฟโบราณหรือชาไทยสีส้ม ลูกค้าทุกคนยังได้รับสิทธิการใช้ไวไฟความเร็วสูงฟรี 1 ชั่วโมง อีกด้วย แต่หากเรามีบัตร
True Black Card ก็สามารถไปใช้บริการได้ที่ True Sphere ที่นี่ทุกออกแบบโดยมีแนวคิด co-working spaceในจิตใจ
ทำให้ที่นี่มีที่นั่งที่สะดวกสบาย แบ่งเป็นสัดส่วน พร้อมปลั๊กสำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกโต๊ะ มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรีไม่อั้นและจะได้รับอาหารสมมนาคุณเครื่องดื่ม 1 แก้วพร้อมคุกกี้ 2 ชิ้นฟรีไปเลย หรือถ้ามากันหลายคนแล้วอยากสั่งอาหารเพิ่ม ที่ True Sphere จะบริการคุณด้วยการสั่งอาหารที่โต๊ะ ทำสดร้อนๆ แล้วมาเสิร์ฟ ให้คุณไม่ต้องพลาดทุกบทสนทนาต่อไปนี้ การมาจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต พร้อมนัดลูกค้าคุยงานก็สามารถทำได้ที่เดียวกันแล้ว ครบจบทุกกิจกรรม

3.Dean & Deluca
คาเฟ่เก๋ๆ จากนิวยอร์กที่เพิ่งเปิดตัวในเมืองไทยได้ไม่กี่ปี แต่ก็ฮิตติดลมบนไปแล้ว ร้านตกแต่งให้อารมณ์เหมือนเรากำลังเข้าไปในห้องครัวบ้านเพื่อน มีความอินดัสเทรียลอยู่หน่อยๆ แต่เฟรนด์ลี่กว่ามาก ที่สำคัญคือมีน้ำตกอยู่นอกหน้าต่างให้เรามองและรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาสที่เห็น มีปลั้กเสียบอยู่ประปรายให้ใช้ได้ไม่ขาดแคลน ใครเคยมาคงรู้ดีว่า กาแฟเขาอร่อยไม่แพ้ใคร มีขนมให้เลือกเยอะมาก และเสิร์ฟอาหารด้วยแบบจริงจังด้วยเช่นกัน ยังไม่หมด ไวไฟก็แจกให้ฟรีให้ใช้ตลอด หากทำงานเสร็จแล้วพอมีเวลา เดินช้อปในร้านหน่อย ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนที่เขาขายนำเข้ามาจากอเมริกาทั้งหมด มีทั้งของกินและของใช้ มินิมัลแบบมีสไตล์มากๆ

4.au bon pain
ร้านกาแฟสัญชาติฝรั่งเศสที่เน้นสไตล์โฮมมี่ เด่นที่เครื่องดื่ม ขนมและสลัด แต่ไฮไลท์อยู่ที่แซนด์วิชนานาชนิด มีขนมปังให้
เลือกหลายแบบ (เราชอบเบเกิลมากก คุณล่ะชอบอะไร) สั่งแล้วเขาก็จะค่อยๆ ทำอย่างประณีต ใส่วัตถุดิบสดสะอาดลงไปแล้วค่อยห่ออย่างเบามือ มีความเฟรชและเฮลธี่อยู่ในตัว ที่สำคัญคืออร่อยมาก ส่วนร้านก็ตกแต่งได้อย่างน่านั่ง ไฟสว่างกำลังดี เหมือนอยู่ที่คาเฟ่ในต่างประเทศ หากจะไปนั่งทำงานก็มีไวไฟให้ใช้บริการฟรี 2 ชั่วโมง อีกร้านที่ให้คุณได้ทำงานในบรรยากาศเรียบง่าย

5.AIS D.C.
Co-working Space ที่ดี มีไวไฟใหใช้ฟรีตลอดวัน โดยมีDNAของคนเช่าคนก่อน คือ TCDC โดยมีคอนเซ็ปต์คร่าวๆ
คือจะเป็นสเปซของคนรุ่นใหม่ที่รักในความคิดสร้างสรรค์ พื้นที่ทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน ตั้งแต่ Co-space พื้นที่ทำงานที่รายล้อมไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับเทคโนโลยีและดีไซน์กว่า 10,000 เล่ม / Meeting Room สำหรับการประชุมอย่างจริงจัง เป็นห้องส่วนตัว ไม่มีเสียงอื่นรบกวน / Studio Room ห้องถ่ายภาพและวิดีโอสำหรับสร้างผลงานของตัวเองแบบมืออาชีพ และยังมีโซนS.A.T. Place ที่รับฟังทุกไอเดียของคนที่มีแพสชั่นในด้าน Creativity ค่าสมาชิกรายปีอยู่ที่ 1,200 บาท แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าของ AIS Serenade ก็เข้าใช้บริการได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ – เดือนสิงหาคม 2561 เลยนะ ไปกันเร็ว!