สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เผยความพร้อมเตรียมแผนป้องกันน้ำท่วม รุกหน้าสร้างเขื่อนป้องกันสูง 6 เมตร รอบพื้นที่กว่า 77 กิโลเมตร ตอกย้ำความพร้อมและสร้างความมั่นใจสูงสุดแก่ลูกค้า ชูธงปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินปี 55 เพิ่มเป็น 1.5 พันไร่ ตอบรับดีมานด์ยอดจองพื้นที่โครงการระยอง 2 และ ปราจีนบุรีขยายตัวเพิ่มขึ้น คาดรายได้ปีนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำในปีนี้ เพื่อป้องกันปัญหาและสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับนักลงทุน โดยทุ่มงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท เร่งดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมโดยรอบพื้นที่โครงการสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ. พระนครศรีอยุธยา ทั้ง 3 เฟส รวมระยะทาง 77.6 กิโลเมตร ซึ่งเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับความคืบหน้าขณะนี้ ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 96 % และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนกันยายนนี้
“ภาพรวมในปีนี้ไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับปีที่แล้ว เพราะปริมาณน้ำยังไม่มากนัก อีกทั้งภาครัฐและเอกชนก็เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งสวนอุตสาหกรรมโรจนะก็ให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ และมั่นใจว่าเขื่อนป้องกันน้ำท่วมที่สร้างขึ้น มีความสูงถึง 6.05 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จะช่วยป้องกันทุกพื้นที่ในนิคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดในระยะยาวได้อีกด้วย” นายจิระพงษ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายจิระพงษ์ ยังกล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2555 ว่า บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินในปีนี้ จากเดิมตั้งไว้ 1,000 ไร่ เพิ่มเป็น 1,500 ไร่ เนื่องจากมีการเปิดตัวนิคมอีก 2 แห่งคือที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทั้ง 2 แห่ง ได้รับความสนใจและการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมีลูกค้าจองพื้นที่โครงการระยอง 2 ใน อ.ปลวกแดง ไปแล้ว กว่า 600 ไร่ และโครงการปราจีนบุรี ตอนนี้มีลูกค้าติดต่อจองพื้นที่กว่า 70% ขณะเดียวกัน การก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมรอบพื้นที่โครงการใน จ. พระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้ลูกค้าในนิคมเกิดความเชื่อมั่น และบริษัทฯ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความต้องการพื้นที่โครงการที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะกลับมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง และมีทรัพยากรน้ำที่มีคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสมกับหลายๆ อุตสาหกรรม รวมทั้งที่ตั้งของนิคมยังเป็นศูนย์กลางของระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะสามารถผลักดันเป้าหมายยอดขายที่ดินในปี 2556 อีกไม่ต่ำกว่า 1,500 ไร่
