- เชฟโรเลต ทำสถิติยอดขายสูงสุดของเดือนกรกฎาคมด้วยจำนวน 6,148 คัน มากเป็นอันดับสองของยอดขายประจำเดือนนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
- เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก รายงานเชฟโรเลต รั้งอันดับสองจากผลสำรวจความพึงพอใจด้านการบริการลูกค้าที่มีต่อแบรนด์รถยนต์ทั้งหมด 9 บริษัท
- ส่วนแบ่งการตลาดของเชฟโรเลต ยังคงเติบโตต่อเนื่องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรุงเทพฯ – บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มต้นไตรมาสที่สามอย่างงดงาม ด้วยการทำยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของเดือนกรกฎาคม โดยเชฟโรเลต โคโลราโด ยังคงนำยอดขายสูงสุดควบคู่กับรถเชฟโรเลตคุณภาพระดับโลกรุ่นอื่นๆ รวมถึงโซนิค ตัวถังซีดาน ที่เพิ่งเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เชฟโรเลต ประเทศไทย มียอดจำหน่าย 6,148 คัน ทำให้ยอดขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมปีนี้มีตัวเลขรวมทั้งสิ้น 38,437 คัน เติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 114 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นยอดจำหน่ายสูงสุดในหนึ่งเดือนเป็นอันดับที่สองและนับเป็นครั้งที่สองที่เชฟโรเลต สามารถทำยอดขายพุ่งทะลุ 6,000 คันภายในหนึ่งเดือน หลังจากเคยทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ถึง 6,301 คันในเดือนมีนาคมของปีนี้
ความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพรถยนต์และการบริการลูกค้ามาตรฐานระดับโลกของเชฟโรเลต ยังได้รับการยอมรับจากเจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก ที่เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าในประเทศไทย ประจำปี 2555 ระบุว่า เชฟโรเลต มีการพัฒนาการบริการดีขึ้น 36 คะแนนทำให้คะแนนรวมเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 851 คะแนน รั้งอันดับสองและห่างจากอันดับหนึ่งเพียง 3 คะแนนเท่านั้น ทั้งนี้ เชฟโรเลต ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีการพัฒนามากที่สุด โดยสามารถทำคะแนนได้ดีในแขนงความคิดริเริ่มในการให้บริการ และคุณภาพการบริการ ขณะเดียวกัน เชฟโรเลต ยังสามารถทำคะแนนได้สูงสุดในฟิลิปปินส์เป็นปีที่สองติดต่อกัน
“การบริการลูกค้าของเราได้รับการพิสูจน์ความยอดเยี่ยมจากผลการจัดอันดับของเจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก ขณะที่ยอดขายของเชฟโรเลต ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง เดือนกรกฎาคมมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 9.6 เปอร์เซ็นต์ โดยรถกระบะ โคโลราโด ยังคงมียอดขายมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมด” มร. อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
เชฟโรเลต โคโลราโด มียอดจำหน่ายทั้งหมด 3,409 คันในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตามมาด้วยแคปติวา และครูซ ที่ทำยอดขายได้ที่ 970 คัน และ 790 คันตามลำดับ ขณะที่รถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ ที่เริ่มทยอยส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนที่แล้วนั้นมียอดขาย 708 คัน สำหรับเชฟโรเลต โซนิค ที่เริ่มทยอยส่งมอบให้ลูกค้าในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตให้แก่แบรนด์เชฟโรเลต ในอนาคตเช่นกัน
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดของเชฟโรเลต ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเพิ่มขึ้นในทุกประเทศ โดยแบ่งออกเป็นดังนี้ เชฟโรเลตในสิงคโปร์มีส่วนแบ่งตลาด 10.8 เปอร์เซ็นต์เติบโตขึ้น 5.7 เปอร์เซ็นต์ บรูไนมีส่วนแบ่งตลาด 4.1 เปอร์เซ็นต์เติบโตขึ้น 2.7 เปอร์เซ็นต์ ประเทศไทยมีส่วนแบ่งตลาด 5.2 เปอร์เซ็นต์เติบโต 1.4 เปอร์เซ็นต์ ฟิลิปปินส์มีส่วนแบ่งตลาด 2.3 เปอร์เซ็นต์เติบโต 0.7 เปอร์เซ็นต์ และมาเลเซียมีส่วนแบ่งตลาด 0.4 เปอร์เซ็นต์เติบโตเพิ่มขึ้น 0.1 เปอร์เซ็นต์
ในเดือนกรกฎาคม ยอดจำหน่ายรวมทั้งหมดของเชฟโรเลต ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 7,427 คัน ขยายตัว 100.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคมมีจำนวนทั้งสิ้น 261,668 คัน เพิ่มขึ้น 13.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของเชฟโรเลต ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวหน้าไปได้อย่างดีเยี่ยม” มร.อันโตนิโอ ซาร่า กล่าว
(ท่านสามารถอ่านผลการศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าในประเทศไทย ประจำปี 2555 เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก ฉบับเต็มได้ที่:
# # #
เกี่ยวกับ เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้ง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2543 โดยเป็นหนึ่งในเครือของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินงานในฐานะเป็นผู้ทำตลาดยานยนต์ที่ผลิตขึ้นภายใต้ชื่อและสัญลักษณ์ทางการค้า เริ่มต้นจาก เชฟโรเลต ซาฟิร่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นการบุกเบิกตลาดรถยนต์เอนกประสงค์รายแรกของประเทศไทย โดยยานยนต์ที่จัดจำหน่ายในปัจจุบัน ได้แก่ เชฟโรเลต ครูซ เชฟโรเลต อาวีโอ เชฟโรเลต อาวีโอ ซีเอ็นจี เชฟโรเลต แคปติวา เชฟโรเลต โคโลราโด เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ใหม่ รวมไปถึง เชฟโรเลต โซนิค ใหม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นยานยนต์คุณภาพ ทั้งในด้านความปลอดภัย สมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม การออกแบบอันโดดเด่น ความคุ้มค่า และความเป็นผู้นำด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง อันเป็นการตอบรับวิสัยทัศน์ในการออกแบบ ผลิต และจำหน่ายยานยนต์ที่ดีที่สุดในโลก
