ด้วยความประหยัดที่เหนือชั้น อเนกประสงค์ และความเชื่อถือได้ที่พิสูจน์แล้วของเครื่องบินยอดนิยมรุ่น เอ330 เอ330-800นีโอ และเอ330-900นีโอ ซึ่งเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2557 นี้ สามารถลดอัตราการเผาพลาญเชื้อเพลิงลงไปได้ถึงร้อยละ 14 ต่อที่นั่งทำให้เป็นเครื่องบินที่ประหยัดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาดของเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างพิสัยกลาง ตลอดจนช่วยสายการบินประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการดำเนินงานที่เงียบสงบ เครื่องบินยังช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการด้วยพิสัยการบินที่เพิ่มขึ้นอีกถึง 400 ไมล์ทะเล และความสามารถในการแบกน้ำหนักบรรทุกได้มากขึ้น นอกจากนี้ เอ330นีโอ ไม่เพียงแต่จะมีต้นทุนเงินสดในการประกอบการต่อที่นั่งเทียบเท่ากับคู่แข่งรุ่นใกล้เคียงอย่างโบอิ้ง787 แต่ยังให้ต้นทุนทางตรงในการประกอบการต่อที่นั่งที่ดีกว่า และมอบความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยที่นั่งที่กว้างกว่าหนึ่งนิ้วในชั้นประหยัด
เครื่องบิน เอ330นีโอ จะติดตั้งด้วยเครื่องยนต์รุ่นล่าสุด โรลส์-รอยซ์ เทรนท์ 7000 ซึ่งมีใบพัดขนาดใหญ่กว่าด้วยเส้นผ่าศูนย์กลาง 112 นิ้ว อัตราส่วนบายพาส 10:1 มีที่นั่งมากขึ้นและห้องโดยสารแบบใหม่ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ รวมทั้งวัสดุคอมโพสิตของเครื่องบินรุ่น “เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี อินสไปร์” ที่มีปีกวิงเล็ทและตัวปีกขยายออกจาก 60.3 เมตร เป็น 64 เมตร สมาชิกใหม่ล่าสุดตระกูล เอ330 ลำแรก มีกำหนดการณ์ส่งมอบภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2560
วิวัฒนาการของห้องโดยสาร
ผ่านการนวัตกรรมในการปรับปรุงห้องโดยสารใหม่ เครื่องบิน เอ330-900นีโอ จะรองรับที่นั่งเพิ่มเติมได้ถึง 10 ที่นั่ง (จาก300-310 ที่นั่ง) ในขณะที่ เอ330-800นีโอจะรองรับที่นั่งเพิ่มเติมได้ถึง 6 ที่นั่ง (จาก 246-252 ที่นั่ง) โดยยังสามารถรักษามาตรฐานความสะดวกสบายสูงสุดเทียบเท่าที่ เอ330 ในปัจจุบัน ด้วยที่นั่งขนาดกว้าง 18 นิ้วในชั้นประหยัด นอกจากนี้ผู้โดยสารทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การเดินทางในศตวรรษที่ 21 รวมทั้งเที่ยวบินบันเทิงความละเอียดสูงรุ่นที่สี่ (IFE)แสงสีที่สามารถปรับได้ตามอารมณ์ความต้องการและการเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบทั้งรุ่นเอ330 และรุ่นใหญ่กว่าอย่าง เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี
ไฟ LEDภายในห้องโดยสารจะมีน้ำหนักเบาและการบำรุงรักษาจะมีราคาถูกกว่าไฟส่องสว่างในแบบเก่า ในขณะที่นำเสนอสถานการณ์การปรับแต่งอารมณ์แสงสีได้อย่างไม่จำกัด
ลูกเรือของ เอ330นีโอก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วยกับห้องโดยสารระบบสื่อสารข้อมูล (CIDS) ที่มีการปรับปรุงพัฒนา มีแผงสำหรับพนักงานบนเครื่องบินในการควบคุมแสงไฟ, ระดับน้ำ, อุณหภูมิและการประกาศเสียง นอกจากนี้ส่วนครัวซึ่งได้รับการพัฒนาของ เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี จะสามารถใช้ได้สำหรับรุ่น เอ330 ด้วยโดยจะมีการเพิ่มเครื่องใช้อย่างเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่, ตู้แช่ชิลเลอร์และเตาอบที่มีฟังก์ชั่นการอบความร้อนสูง นักบินและลูกเรือจะได้รับความสบายเพิ่มขึ้นกับห้องพักของลูกเรือซึ่งแยกส่วนออกมา ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นในส่วนห้องโดยสาร ทำให้สามารถเพิ่มที่นั่งโดยสารให้มากขึ้นได้
การดำเนินงานและการบำรุงรักษา
เช่นเดียวกับการดำเนินงานของสมาชิกอื่นๆในตระกูลครื่องบินของเแอร์บัส และใช้ใบอนุญาตนักบินผูควบคุมเครื่องบินได้เหมือนกับเครื่องบินรุ่น เอ330 และใช้ใบอนุญาตการเปลี่ยนแบบเครื่องบิน (Commontype rating) เหมือนกับเครื่องบินรุ่น เอ350 เอ็กซ์ดับเบิ้ลยูบี รวมทั้งใช้ประตูประเภท “รหัส-E” เช่นเดียวกับรุ่นเอ330-200 และเอ330-300 เครื่องบินรุ่นนีโอ ยังคงใช้อะไหล่เช่นเดียวกับรุ่น เอ330 ถึงร้อยละ 95 เครื่องบินรุ่นนีโอสืบทอดความน่าเชื่อถือเป็นผู้นำในตลาด
เครื่องบินรุ่นนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องบินลงอีกร้อยละ 5 ต้องขอขอบคุณวิวัฒนาการของ เครื่องบินรุ่นเอ330 ซึ่งมีโปรแกรมการบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ปัจจุบันขั้นตอนการตรวจเช็คจึงลดน้อยลงและเว้นช่วงระยะเวลายาวนานขึ้น ทำให้ใช้ชั่วโมงคนทำงานลดลงกว่าการบำรุงรักษาโดยทั่วไปในรอบ 12 ปีสำหรับชิ้นส่วนใหม่ๆ เช่น เสาไพลอนและบางส่วนของปีกที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมทั้งการใช้ระบบอากาศภายใต้ความดันแบบทำงานด้วยไฟฟ้า (Electrical bleed air system) แทนที่การควบคุมนิวแมติกด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ก็เป็นส่วนช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาลงร้อยละ 5 เช่นกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในรุ่นเอ 380 และใช้อยู่ในรุ่น เอ350
โดยรวมแล้ว เครื่องบินรุ่น เอ330 นีโอใหม่นี้ ได้รับการพัฒนามาจากรุ่นเอ330 ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดในเรื่องของประสิทธิภาพ ความเอนกประสงค์ ความน่าเชื่อถือและความสามารถในการทำกำไร เครื่องบินรุ่น เอ330 นีโอเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ประกอบการสายการบิน
