พฤกษา เรียลเอสเตท ผลประกอบการปี 56 พุ่งทั้งรายได้และกำไร สร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

0
249
image_pdfimage_printPrint

พฤกษา เรียลเอสเตท โชว์ผลประกอบการปี 2556 ยอดเยี่ยม เติบโตเพิ่มขึ้นเกินเป้าหมายทั้งยอดขาย รายได้และกำไรสุทธิ  ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 21 ปี   โดยมียอดขายรวม 41,282 ล้านบาท รายได้รวม 39,041 ล้านบาท และกำไรสุทธิ  5,801 ล้านบาท  

 

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่   แถลงถึงผลประกอบการประจำปี 2556 ว่า “ปี 2556 นับเป็นปีทองของบริษัทฯ เพราะผลการดำเนินธุรกิจในทุกด้านประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย ทั้งในด้านยอดขาย รายได้และกำไรสุทธิ เติบโตขึ้นจากปีก่อน และ สูงที่สุดในรอบ 21 ปี  โดยมียอดขาย  41,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มียอดขาย 29,397 ล้านบาท รายได้รวม 39,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีรายได้รวม 27,141 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ  5,801 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 49% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 3,898 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่เติบโตมากนี้ มาจากการปรับกลยุทธ์และการปรับโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา  ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้าได้ดีขึ้น การบริหารงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น  เห็นได้ชัดเจนจากรายได้ในไตรมาส 4 ที่พุ่งสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ถึง 40%”

 

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ   เปิดเผยว่า “รายได้รวมของบริษัทฯ 39,041 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 38,848 ล้านบาท และรายได้อื่นๆอีก 193 ล้านบาท โดยมาจากการบริหารการก่อสร้างของบริษัทฯ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโรงงานพฤกษา พรีคาสต์ ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่ และมีการนำระบบการก่อสร้างบ้านที่มีคุณภาพ (Real Estate Manufacturing :REM) มาใช้ในการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในปี 2556 ได้เป็นจำนวนถึง 16,969 ยูนิต แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 13,169 ยูนิต และคอนโด 3,800 ยูนิต ซึ่งนับเป็นสถิติยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่สูงสุดของบริษัทฯ และคาดว่าจะสูงที่สุดในวงการ โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่โอนกรรมสิทธิ์ได้ 12,283 ยูนิต”

 

“ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยไทยในปี 2556 เติบโต 4% เมื่อเทียบกับปี 2555 โดยมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล มีมูลค่าประมาณ 348,536 ล้านบาท สำหรับในปี 2557 นี้คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัย จะเติบโตในกรอบแคบๆ ใกล้เคียงกับปี 2556 แต่หากเกิดผลกระทบด้านปัจจัยลบต่าง ๆ และสถานการณ์มีความรุนแรง คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัย อาจจะชะลอตัวประมาณ -2% อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทฯ ได้มีการเตรียมพร้อมและมีความสามารถในการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์ต่่างๆ และการเลือกจับกลุ่มลูกค้าที่เป็น Real Demand จึงเชื่อมั่นว่าในปีนี้บริษัทฯ จะยังคงรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืน และมุ่งมั่นเพื่อเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ เน้นพัฒนาโครงการในแนวราบ คือ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ เป็นหลักประมาณ 80% รวมทั้งขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าระดับ กลาง–สูง และขยายโครงการไปในต่างจังหวัดมากขึ้น”   นายทองมา กล่าวเสริม