ผลวิจัยชี้ชัด! การสร้างสวัสดิภาพที่ดีให้แก่ไก่ในฟาร์ม ราคาต่ำกว่าที่ประเมินไว้

0
852
image_pdfimage_printPrint

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) เปิดเผยข้อมูลวิจัยชิ้นสำคัญเรื่อง “การยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าที่คาดไว้” พร้อมสร้างความหวังครั้งใหม่ในการช่วยเหลือไก่เนื้อกว่า 40,000 ล้านตัว ที่ถูกเลี้ยงในโรงเรือนระบบอุตสาหกรรมในทุกๆ ปี โดยพบว่าการสร้างสวัสดิภาพที่ดีให้แก่ไก่เนื้อนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้เป็นอย่างมาก และจากการค้นพบในครั้งนี้จะช่วยให้ไก่เนื้อหลายพันล้านตัวทั่วโลก ได้ออกจากระบบการเลี้ยงที่โหดร้ายทารุณ รวมถึงบรรดาร้านอาหาร ร้านค้าปลีก และผู้ผลิตเนื้อไก่ต่างๆจะไม่สามารถนำเรื่องต้นทุนมาเป็นข้ออ้างในการเลี้ยงไก่แบบเดิมได้อีกต่อไป

มหาวิทยาลัย Wageningen ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยด้านการเกษตรชั้นนำของโลก
ได้ทำการศึกษาตลาดหลัก 5 แห่งทั่วโลก พบว่า การเปลี่ยนถ่ายวิธีเลี้ยงไก่เนื้อแบบ “ดั้งเดิม” มาเป็นระบบการเลี้ยงในร่มที่เน้นการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 2.08 – 3.11 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้นในกลุ่มสัตว์ปีกมีชีวิต หรือคิดเป็น 6.4 – 13.4% ของต้นทุนการเลี้ยงแบบเดิม ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ในรายงานจากภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐ ที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงถึง 49% โดยการยกระดับคุณภาพชีวิตไก่ในระบบอุตสาหกรรมนั้น ไม่ยุ่งยาก มีประสิทธิภาพ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และสามารถนำมาปรับใช้กับระบบการเลี้ยงส่วนใหญ่ในปัจจุบันได้ทันที ดังนี้เราจึงควรปรับปรุงการเลี้ยงไก่โดย

• การลดความแออัดในโรงเรือน ให้เหลือเพียง 30 กิโลกรัม/ตารางเมตร เพื่อให้ไก่มีพื้นที่ขยับตัว และกระพือปีกได้อย่างอิสระ
• เพิ่มสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมธรรมชาติของไก่ เช่น การมีคอนพักหรือชานพร้อมเมล็ดพืช ก้อนหญ้าแห้งให้ไก่จิก มีวัสดุปูพื้นเพื่อให้ไก่คลุกฝุ่นหรือยืนได้สบายซึ่งดีต่อสุขภาพปีกและเท้าของพวกมัน โดยสิ่งเหล่านี้พิสูจน์แล้วว่าสามารถเติมเต็มพฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกมันได้
• สัตว์ปีกจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าหากได้รับการพักผ่อนในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามธรรมชาติ คือได้อยู่ในความมืดเป็นเวลา 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง และได้รับแสงสว่างที่เพียงพอในช่วงกลางวัน ซึ่งดีกว่าการพักผ่อนเป็นช่วงๆ หรือถูกรบกวนเวลานอนหลับเป็นประจำ
• การปล่อยให้สัตว์ปีกค่อยๆ เติบโตตามธรรมชาติอย่างมีสวัสดิภาพที่ดี จะช่วยลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการเร่งโตได้

จากผลการสำรวจพบว่า ทั่วโลกมีการเลี้ยงไก่เนื้อถึง 6 หมื่นล้านตัว และพวกมันส่วนใหญ่ยังคงถูกเลี้ยงในโรงเรือนแบบปิดที่แออัด มีการดัดแปลงสายพันธุ์ให้พวกมันโตไว มีส่วนอกที่หนักและใหญ่ ซึ่งส่งผลให้ช่วงขามีปัญหาจากการรับน้ำหนักมากเกินตัว รวมถึงสร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานให้แก่พวกมันเป็นอย่างมาก โดยการเร่งโตและการถูกเลี้ยงอย่างแออัดทำให้เกิดปัญหาด้านสวัสดิภาพอย่างรุนแรง เช่น ระบบหายใจล้มเหลว การตายเฉียบพลัน ขามีปัญหา กระดูกเปราะ และมีแผลเรื้อรังบนผิวหนังจากการอยู่ในที่เปียกและมูลสัตว์นานเกินไป

ปัจจุบันเริ่มมีผู้บริโภคเนื้อไก่ทั่วโลกให้ความสนใจในคุณภาพชีวิตของไก่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเนื้อไก่ไม่สามารถเพิกเฉยต่อประเด็นนี้ได้อีกต่อไป โดยผู้บริโภคเต็มใจที่จะรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ หากสัตว์ได้รับการดูแลสวัสดิภาพที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังจะเห็นได้จากพฤติกรรมการบริโภคในประเทศเนเธอร์แลนด์หลังมีการเปลี่ยนแปลงการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ในระบบอุตสาหกรรมและร้านค้าปลีกต่างๆ

Steve McIvor, CEO องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า “จากการวิเคราะห์ระบบการเลี้ยงไก่ในตลาดที่ทำการศึกษาเกือบทั้งหมด ยกเว้นการเลี้ยงในกรง ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจว่าเราสามารถนำระบบการเลี้ยงในร่มที่เน้นการดูแลสวัสดิภาพสัตว์มาปรับใช้ได้ทันทีด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า โดยสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตไก่เหล่านี้ได้จริงๆ และเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของไก่หลายพันล้านตัวทั่วโลกให้ดีขึ้นจริง ซึ่งสามารถพิสูจน์ผลลัพธ์ได้จริงทางวิทยาศาสตร์ และนับเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจทั่วโลกอีกทางหนึ่ง เพราะผู้บริโภคจะได้รับรู้ข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกบริโภคสิ่งที่ดีกับตัวเอง พร้อมช่วยให้ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกสามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้”

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้ที่ www.worldanimalprotection.or.th