ปริมาณพลังงาน พื้นที่ และระบบความเย็นกำลังเป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรมในศูนย์ข้อมูล จากการวิจัยของบริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำ

0
217
image_pdfimage_printPrint

การศึกษาทั่วโลกที่สนับสนุนโดย CA Technologies ไฮไลต์บทบาทของ #DCIM ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของแผนกไอทีและการเพิ่มความคล่องตัวของธุรกิจ

เกือบ 85 เปอร์เซ็นต์ของผู้จัดการศูนย์ข้อมูลกล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับปริมาณพลังงาน พื้นที่ และระบบทำความเย็นของศูนย์ข้อมูล รวมไปถึงปัญหาด้านสินทรัพย์และเวลาการทำงานในช่วงปีที่ผ่านมานั้นทำให้การเปิดตัวแอพพลิเคชั่นมีความล่าช้าหรือต้องถูกยกเลิกไป ความสามารถในการสนับสนุนลูกค้าลดลง และมีการจัดสรรงบประมาณ OpEx และ CapEx ใหม่ที่ไม่คาดคิดและไม่ตรงตามเป้าหมายกลยุทธ์

จากการศึกษาของ IDC ที่มีชื่อว่า “บทบาทของศูนย์ข้อมูลในการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ”* ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ความสามารถในการรองรับนวัตกรรมและความสามารถในการสร้างมูลค่าสูงสุดทางธุรกิจจากการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของแผนกไอทีลดลง

มีพนักงานจากแผนกไอทีและในโรงงานจากองค์กรขนาดกลางและใหญ่ในอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก และละตินอเมริกากว่า 500 คนที่เข้าร่วมกับการศึกษาที่สนับสนุนโดย CA Technologies นี้

“องค์กรต่างๆ ต้องใช้เงินกว่าพันล้านในแต่ละปีเพื่อปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานในศูนย์ข้อมูลของตน และยังใช้เงินมากกว่านั้นในด้านพลังงานและระบบทำความเย็น รวมทั้งพนักงานของแผนกไอทีและโรงงานเพื่อให้มั่นใจว่าแอพพลิเคชั่นปัจจุบันและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ นั้นจะสามารถใช้งานได้ในระดับสูง” Richard Villars รองผู้อำนวยการของศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ที่ IDC และผู้เขียนการศึกษานี้กล่าว “โดยต้องทำให้มั่นใจว่าการลงทุนนี้มีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่า รวมทั้งสนับสนุนเป้าหมายโดยรวมของธุรกิจในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และให้บริการใหม่ๆ ได้”

แต่ปัญหาที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลนั้นกำลังทำให้ผลตอบแทนทางธุรกิจจากการลงทุนเหล่านี้นั้นลดลงเป็นอย่างมาก โดยปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลที่ผู้เข้าร่วม 84 เปอร์เซ็นต์ระบุนั้นประกอบไปด้วย ปัญหาด้านพลังงาน (27 เปอร์เซ็นต์) พื้นที่ (27 เปอร์เซ็นต์) และระบบทำความเย็น (25 เปอร์เซ็นต์) รวมทั้งความไม่สมดุลของปริมาณทั่วทั้งไซต์งานต่าง

การศึกษาพบว่าสาเหตุของปัญหาในศูนย์ข้อมูลที่พบบ่อยเหล่านี้นั้น ประกอบด้วย

  • ศูนย์ข้อมูลที่ล้าสมัย ผู้เข้าร่วม 57 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่าศูนย์ข้อมูลของตนนั้น “ไม่มีประสิทธิภาพ” หรือ “มีประสิทธิภาพปานกลาง”
  • การดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลแบบแยกส่วน เนื่องจากพนักงานของแผนกไอทีและโรงงานต้องจัดการส่วนต่างๆ ของการดำเนินงานในศูนย์ข้อมูล องค์กรจึงไม่สามารถปรับใช้กระบวนการ นโยบาย และเกณฑ์วัดที่สอดคล้องกันได้
  • ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลที่ไม่สม่ำเสมอ ผู้มีอำนาจตัดสินใจไม่สามารถวางแผนในด้านปริมาณ ระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง หรือปรับการจัดสรรทรัพยากรเช่น พลังงาน ระบบทำความเย็น การเชื่อมต่อ พื้นที่บนชั้นวางของและบนพื้นได้อย่างถูกต้องเหมาะสมได้หากผู้มีอำนาจตัดสินใจนั้นไม่ทราบเกณฑ์วัดโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของศูนย์ข้อมูลอย่างชัดเจน

การศึกษาได้เน้นที่เครื่องมือในการจัดการศูนย์ข้อมูลที่มักจะมีการดำเนินการด้วยตนเองหรือแบบแยกส่วน โดยการศึกษาระบุว่าวิธีจัดการโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล (DCIM) แบบเป็นหนึ่งเดียวจะช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มมูลค่าจากการลงทุนในศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่และสนับสนุนนวัตกรรมทางธุรกิจในแผนกไอทีได้มากขึ้น

“แผนกไอทีและโรงงานต้องทำงานร่วมกันเพื่อส่งมอบนวัตกรรมที่แผนกบริหารระดับ C ต้องการ” Villars กล่าว “ในการบรรลุเป้าหมายนั้น องค์กรควรปรับใช้โซลูชั่น DCIM ซึ่งจะใช้วิธีแบบเป็นหนึ่งเดียวในการจัดการศูนย์ข้อมูลในทุกๆ ด้าน”

ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลมากกว่าครึ่งที่การศึกษาได้สำรวจกล่าวว่า การนำโซลูชัน DCIM มาใช้นั้นจะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างมูลค่าได้ ลำดับความสำคัญในการปรับใช้โซลูชั่น DCIM ของผู้เข้าร่วมนั้นประกอบไปด้วย

  • การตรวจสอบพลังงาน อุณหภูมิ และตัวแปรอื่นๆ แบบเรียลไทม์
  • การแจ้งเตือนและการเตือนเกี่ยวกับพลังงานและระบบทำความเย็น
  • การจัดการสินค้าคงคลังและสินทรัพย์ และ
  • การวิเคราะห์และการวางแผนด้านปริมาณ

“ศูนย์ข้อมูลเป็นความท้าทายขององค์กรในปัจจุบันซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้” มานีวันนัน โกวินดัน ผู้อำนวยการฝ่าย Solution Strategy ภาคพื้นเอเชียเซ้าท์ ซีเอ เทคโนโลยี กล่าวว่า “การใช้วิธีแบบดั้งเดิมมักจะทำให้การตรวจสอบและการจัดการพื้นที่ พลังงาน ระบบทำความเย็น และสินทรัพย์ของศูนย์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นไปได้ยาก DCIM จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้และช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และเพิ่มความคล่องตัวที่จำเป็นในการจัดการกับความต้องการทางธุรกิจที่มีเพิ่มมากขึ้น”

Villars จาก IDC, Peter Gilbert รองผู้อำนวยการกลยุทธ์ธุรกิจ DCIM ของ CA Technologies และ Stephen Worn จาก Datacenter Dynamics CTO จะนำเสนอข้อมูลในการสัมมนาผ่านเว็บที่มีชื่อว่า
“The Datacenter Dilemma: Optimize Capacity, Reduce Risk, Get Rapid Value. Can DCIM Deliver? (ปัญหาของศูนย์ข้อมูล: ปรับปริมาณให้เหมาะสม ลดความเสี่ยง สร้างมูลค่าอย่างเร่งด่วน DCIM จะช่วยได้หรือไม่)” ในวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา 11.00 น. เวลามาตรฐานตะวันออก โปรดไปที่http://bit.ly/SqOTKt เพื่อลงทะเบียน

หากต้องการดาวน์โหลดการศึกษานี้ โปรดไปที่ www.ca.com/dcim-survey สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CA DCIM โปรดไปที่ http://www.ca.com/dcim

* เอกสารข้อมูล IDC ที่สนับสนุนโดย CA Technologies “บทบาทของศูนย์ข้อมูลในการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ การใช้ DCIM เพื่อการจัดการร่วมกัน” Doc # 237737, พฤศจิกายน 2555

เกี่ยวกับ CA Technologies

CA Technologies (NASDAQ: CA) ให้บริการโซลูชั่นการจัดการด้านไอทีซึ่งช่วยเหลือลูกค้าในการจัดการและรักษาความปลอดภัยสภาพแวดล้อมด้านไอทีที่ซับซ้อนเพื่อสนับสนุนบริการทางธุรกิจที่คล่องตัว องค์กรต่างๆ นำซอฟต์แวร์ของ CA Technologies และโซลูชั่นของ SaaS มาใช้ในการเร่งรัดพัฒนานวัตกรรม เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและข้อมูลประจำตัว ตั้งแต่ศูนย์ข้อมูลไปจนถึงคลาวด์ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CA Technologies ได้ที่ www.ca.com