บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุน KFMIX80-20 กองทุนผสมที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงสูง

0
246
image_pdfimage_printPrint

บลจ.กรุงศรี  เปิดตัวกองทุนเปิดกรุงศรีมิกซ์ 80-20 (KFMIX80-20) เพิ่มโอกาสในการสร้างความมั่นคงด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ และเพิ่มความมั่งคั่งด้วยการลงทุนในหุ้น พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ลงทุนในช่วงเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 3 – 10 ก.ย. 56

KFMIX80-20(2)

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีมิกซ์ 80-20 (KFMIX80-20) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสม มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ 80% และหุ้น 20%  และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้งในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิ ทั้งนี้ กองทุน KFMIX80-20 จะใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรุกโดยการคัดสรรตราสารหนี้คุณภาพดี เพื่อโอกาสในการรักษาเงินต้น และเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพดี มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจสูง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความสามารถในการทำกำไรสูง และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ”

“กองทุนมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในอัตราส่วนที่กำหนดไว้ทุกเดือน (Rebalancing)  เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเป็นไปตามแนวทางการลงทุนที่กำหนดไว้  เนื่องจากบริษัทมองว่าการผสมหุ้นในพอร์ตการลงทุนในสัดส่วน 20% เป็นระดับที่เหมาะสม เป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว  ทั้งนี้ บริษัทได้มอบโปรโมชั่นพิเศษให้ผู้ลงทุนในช่วงการเสนอขายครั้งแรก โดยเมื่อลงทุนครบทุกๆ 200,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน KFCASH มูลค่า 100 บาท”

“บริษัทเชื่อมั่นว่ากองทุน KFMIX80-20 จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี  เนื่องจากสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่สูงมากนัก  แต่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ  ดังนั้นการผสมการลงทุนในหุ้นที่สัดส่วน 20% ถือเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมและช่วยสร้างผลตอบแทนในพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างดี”

“หากพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลัง 14 ปี จากการลงทุนด้วยเงินต้น 1 หมื่นบาท จะพบว่าหากผู้ลงทุนมีการลงทุนในเงินฝากประจำ 1 ปี จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 2.44% ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 4.81% ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ 0.92%  ขณะที่การลงทุนในพันธบัตรอย่างเดียว จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5.76% ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 18.66% ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ -4.18%  หากลงทุนในหุ้นอย่างเดียวจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 14.28%  ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 126.35 % ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ -45.10%    และในกรณีที่มีการลงทุนในหุ้นไทย 20% ผสมกับพันธบัตร 80% จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 8.96%  ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 38.37 % ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ 0.20% แสดงให้เห็นว่าไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนสูงเสมอในทุกวัฎจักรเศรษฐกิจ ดังนั้นผู้ลงทุนลงทุนจึงควรวางแผนการลงทุนในระยะยาวและให้ความสำคัญกับการจัดสรรการลงทุน เพราะผลตอบแทนที่ดีขึ้นอยู่กับการจัดสรรลงทุนที่เหมาะสม”

นายฉัตรพีกล่าวเพิ่มเติมว่า” บริษัทได้ปรับลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงสู่ 3.50% จากต้นปีที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวประมาณ 7.0% เนื่องจากการบริโภคชะลอตัวลงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และระดับหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น  โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ของปีนี้ยังคงฟื้นตัวในระดับต่ำ  ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงเป็นภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่ยังคงค้างอยู่เป็นจำนวนมาก  อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตได้ใน ระดับ 5.23%”

 

นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com  หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

KFMIX 80-20 เป็นกองทุนรวมผสมแบบกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่แน่นอน มีระดับความเสี่ยง 5 (ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง)  ในกรณีที่มีการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedge) ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงโดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (ปัจจุบันไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ)

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนเอกสารที่เกี่ยวกับกองทุนได้ที่เว็บไซต์บริษัทจัดการ หรือที่บริษัทจัดการและสำนักงานของผู้สนับสนุนการขายก่อนตัดสินใจลงทุน