นิเคอิ สนับสนุนงานประชุมสุดยอดทางธุรกิจ Women in Business Summit คับคั่งด้วยเหล่าตัวแทนผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่น เพื่อการเปลี่ยนแปลง

0
273
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพฯ26 มิถุนายน  2557:กลุ่มบริษัท นิเคอิ ได้สนับสนุนงานประชุมสุดยอดทางธุรกิจ ในหัวข้อ  Womenomics: Engine for Economic Growth Women in Business Summit ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างองค์กรสนับสนุนด้านการศึกษาโดยไม่แสวงผลกำไรระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น (USJC)  และหอการค้าสหรัฐอเมริกาในประเทศญี่ปุ่น (ACCJ) ได้รวบรวมผู้นำจากทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมพูดคุยถึงอนาคตของตลาดแรงงานหญิงในประเทศ โดยงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยมีนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น และเอกอัครราชทูตประเทศสหรัฐอเมริกาประจำประเทศญี่ปุ่น แคโรไลน์ เคนเนดี้ ร่วมด้วยผู้ให้กำเนิดคำ “Womenomics”แคธี มัทซุย ร่วมกล่าวแถลงและแสดงความคิดเห็นสำคัญภายในงาน

NAR Women in Business_2_resized

“นิเคอิ มีความภูมิใจที่ได้สนับสนุนการริเริ่มดำเนินการประชุมสุดยอดของ  Women in Business Summit  โดยเป็นเวทีที่รวมเอาผู้นำทางความคิดชั้นนำของเอเชียร่วมวิเคราะห์และแก้ไขประเด็นความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในเรื่องของการจ้างงาน” เคน โคยานางิ ผู้จัดพิมพ์นิตยสาร นิเคอิ เอเชี่ยน รีวิว กล่าวว่า “การสนับสนุนผู้หญิงในตลาดแรงงานทั่วทั้งทวีปเอเชียให้พัฒนาดีขึ้น ไม่เพียงเป็นสิ่งสำคัญทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นเรื่องถูกต้องที่ควรดำเนินการเพื่ออนาคตของภูมิภาค”

 

ในงานประชุมสุดยอดครั้งนี้มีผู้ให้ความสนใจอย่างคับคั่งและบัตรถูกขายหมดเกลี้ยง นายกรัฐมนตรี อาเบะ ได้ปราศรัยกับผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 700 คนในงาน ถึงการสนับสนุนผู้หญิงในตลาดแรงงานให้ดียิ่งขึ้น เนื่องด้วยเป็นสิ่งสำคัญทางเศรษฐกิจสำหรับประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยรายละเอียดแผนงานสำหรับโครงการทางเลือกที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการดูแลและเลี้ยงดูเด็ก รวมไปถึงความสมดุลทั้งในเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำในเรื่องของเป้าหมายของคณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ.2563 ถึงการรับประกันตัวเลขของผู้หญิงที่จะถูกผลักดันให้อยู่ในบทบาทระดับผู้นำที่ร้อยละ 30

 

“มาตรการต่างๆ ต้องถูกนำมาใช้ในการให้อำนาจแก่ผู้หญิงในทุกระดับ” นายกรัฐมนตรี อาเบะกล่าว

 

เนื่องจากหลายประเทศทั่วทั้งเอเชีย ได้เตรียมรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากประชากรสูงอายุและอัตราการเกิดที่ลดลง ดังนั้น การริเริ่มให้สตรีได้เข้าถึงการจ้างงานที่มากขึ้นจึงมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

“ถึงเวลาแล้วที่ผู้นำต่างๆ ภาคธุรกิจจะมอบโอกาสทั้งหลายให้ลูกสาวของพวกเขาเช่นเดียวกันกับที่เคยมอบให้กับลูกชาย” เอกอัครราชทูต เคนเนดี้ กล่าว

 

นางสาวมัทซุย กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้านักกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นและผู้บริหารร่วมแห่ง Asia Economics Commodities and Strategy Research ที่วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ โกลด์แมน แซคส์   ได้กล่าวระหว่างงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศญี่ปุ่นสามารถเพิ่มขึ้นได้มากถึงร้อยละ 12.5 หากจำนวนแรงงานหญิงมีจำนวนเท่ากับแรงงานชาย

 

โดยงานนี้เป็นงานประชุมสุดยอดประจำปีที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง จัดโดย คณะกรรมการ USJC-ACCJ Women in Business