นวัตกรจากงาน Smart Energy Hackathon คิดค้นทางออกด้านพลังงานกว่า 16 ผลงาน 79 แฮกเกอร์ 16 ทีม 33 ผู้ให้คำแนะนำเพื่อ 1 ภารกิจ

0
269
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพฯ – หลังทุ่มเทเขียนโค้ดโปรแกรมกันต่อเนื่องกว่า 29 ชั่วโมง แต่ละทีมก็ได้คิดค้นทางออกด้าน Smart Energy ในรูปแบบดิจิตอลที่สร้างสรรค์ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม SolarPi ที่ได้พัฒนาระบบการบันทึกข้อมูลการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ เขียนลงใน blockchain แล้วใช้ข้อมูลนี้ในการรับเหรียญ solarcoins ซึ่งเป็นเงินตราดิจิตอลชนิดหนึ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ สมาชิกทีม SolarPi เจอกันครั้งแรกและรวมทีมกันในช่วงกิจกรรมการหาทีมในคืนพิธีเปิด นายโรบิน คลาร์ท ประธานด้านเทคโนโลยี (CTO) ของ OmiseGO ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทยและเป็นกรรมการในงานกล่าวว่า “น่าทึ่งมากที่ทีม SolarPi ซึ่งเพิ่งรวมตัวกันเมื่อคืนวันศุกร์แล้วสามารถนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่แปลกใหม่และโดดเด่นในเชิงนวัตกรรมที่สุด”

ทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ ทีม Hive ซึ่งได้พัฒนาต้นแบบแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Solar Monkey ซึ่งช่วยส่งเสริมให้มีการเลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผ่านการออกแบบระบบ การคัดเลือกผู้ติดตั้งรวมถึงทางเลือกในการลงทุนที่มีอยู่ในประเทศไทย ในลักษณะเดียวกันกับทีมอื่น ๆ ทีมนี้ประสบความสำเร็จในการสร้างกรอบความคิด ออกแบบและผลิตชุดสาธิตการทำงานโดยได้รับการสนับสนุนจากเหล่าผู้ให้คำแนะนำซึ่งเปรียบเสมือนพี่เลี้ยง ผู้ให้คำปรึกษาเหล่านี้หลายคนได้เดินทางมาจากภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมนี้และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของงาน “เราอยากมาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้นำแนวคิดและทางออกมาใช้ในตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และต่างประเทศ การผสมผสานที่ลงตัวของความคิด การสนับสนุนและทุนจะช่วยให้เราสามารถเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่ทางเลือกด้านพลังงานที่ชาญฉลาดและสะอาดมากยิ่งขึ้น” นายยัน-ยุสตุส ชมิดท์ ผู้ก่อตั้ง BluGreen Energy ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้คำแนะนำได้กล่าวไว้

งาน Smart Energy Hackathon เป็นพาหนะทางนวัตกรรมที่ค่อย ๆ พัฒนาต่อยอดทีมที่มีความสามารถและมีแนวคิดที่ใช้ได้จริงไปสู่การจัดตั้งบริษัท ในงานได้มีตัวแทนจากโครงการผู้บ่มเพาะและเร่งรัดธุรกิจเทคโนโลยีอย่าง KX, Techgrind และ Startup Bootcamp ที่มาเฟ้นหาทีมที่มีศักยภาพ ผู้บ่มเพาะและเร่งรัดธุรกิจเทคโนโลยีสามารถให้การสนับสนุนด้านการให้คำปรึกษา ทุนและการฝึกอบรมสำหรับสตาร์ทอัพ และนับเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศด้านพลังงานในภูมิภาค นอกจากนั้นในงานยังมีบริษัทที่ลงทุนในสตาร์ทอัพซึ่งมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเข้าร่วมด้วย นายนิโอ ลิยานาจ ผู้อำนวยการบริษัท Nest Venture Capital และหนึ่งในกรรมการของงานซึ่งเคยร่วมงาน Hackathon มาหลายครั้งได้กล่าวว่า “รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากกับคุณภาพและความหลากหลายของงานที่ส่งเข้าแข่งขันในครั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นมารวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ การนำไปต่อยอดในทางธุรกิจและการนำเสนอนั้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่สูง ซึ่งสร้างความลำบากใจอย่างมากในการคัดเลือกผู้ชนะ” หนึ่งในทีมที่ได้รับรางวัลซึ่งมีแนวทางที่ชัดเจนแล้วยังได้บอกว่า “พวกเราตื่นเต้นกับชัยชนะนี้และจะนำไปพัฒนาต่อยอดอย่างแน่นอน ขั้นตอนต่อไปคือจะต้องหาเงินทุนประมาณหนึ่งล้านบาท (30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปให้ได้”

งาน Smart Energy Hackathon นับเป็นการเปิดโครงการ New Energy Nexus Southeast Asia (Nexus SEA) อย่างเป็นทางการซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาระบบนิเวศด้านพลังงานที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Nexus SEA จะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการด้านพลังงาน การสร้างนวัตกรรมภายในองค์กร และการสนับสนุนการลงทุนด้าน Smart energy ด้วยแนวทางจากล่างขึ้นบน โครงการนี้มุ่งเชื่อมโยงนิสิตนักศึกษา เหล่า co-working space ศูนย์บ่มเพาะและเร่งรัดธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสร้างความตระหนักถึงการหาทางออกให้กับพลังงานในรูปแบบดิจิตอลพร้อมทั้งเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ Nexus SEA จะเน้นดำเนินโครงการใน 3-4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเบื้องต้น หลังจากนั้นจึงจะขยายผลไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเพื่อให้อาเซียนกลายเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีดิจิตอลด้าน Smart Energy

งาน Smart Energy Hackathon ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรที่มีวิสัยทัศน์อย่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท Engie, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.), บริษัท Lykke, บริษัท Whapow บริษัท Blue Solar และ Mint Coworking Space ในส่วนของผู้จัดงานประกอบด้วย องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ), TechGrind, CalCEF/New Energy Nexus, ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) และ เคเอ็กซ์แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (Knowledge Xchange for Innovation: KX)

เว็บไซต์: www.smartenergyhackathon.com
ผลงานประกวดทั้งหมด: https://smartenergyhackathon.devpost.com/submissions
Facebook: www.facebook.com/smartenergyhack
Twitter: www.twitter.com/smartenergyhack

ข้อมูลเกี่ยวกับผู้จัดงาน
องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ)
GIZ เป็นองค์กรของรัฐบาลเยอรมันที่มีประสบการณ์ในการดำเนินกิจกรรมด้านความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน GIZ มีบุคลากรประมาณ 20,000 คน และมีการดำเนินงานด้านต่าง ๆ อยู่ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก GIZ เน้นการดำเนินโครงการที่มีลักษณะเฉพาะและตอบโจทย์ความต้องการโดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างสมดุลการพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยการคำนึงถึงคนทุกกลุ่มในสังคมตลอดจนการรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับในประเทศไทยนั้น GIZ ได้ดำเนินโครงการในนามของกระทรวงต่าง ๆ ของประเทศเยอรมนี สหภาพยุโรป รวมไปถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์หรือบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ จำกัด รวมไปถึงรัฐบาลไทยด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.giz.de และ http://www.thai-german-cooperation.info

TechGrind
TechGrind เป็นระบบนิเวศเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของอาเซียน มีสำนักงานอยู่กรุงเทพฯ ก่อตั้งโดย TechGrind Incubator & Venture Capital, TechGrind Ventures Syndicate, TechGrind Hub and TechGrind Spaces Techgrind โดยนับเป็นศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมเทคโนโลยีเอกชนอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นความร่วมมือระหว่าง Amazon, IBM, Digital Ocean, helloPay, Microsoft Bizspark ร่วมถึงหน่วยงานอื่น ๆ TechGrind มีโครงการบ่มเพาะธุรกิจสำหรับสตาร์ทอัพที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นไปจนถึงการสร้างทีมผู้ก่อตั้ง การจัดโครงสร้างบริษัท การบริหารจัดการกลยุทธ์ด้านทรัพย์สินทางปัญญา การสนับสนุนขยายการเติบโตทางธุรกิจ และการสนับสนุนให้เหล่าสตาร์ทอัพได้พบกับนักลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.techgrind.asia.

ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub)
ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) มีพันธกิจในการบ่มเพาะผู้มีความสามารถและคิดค้นนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การเรียนรู้และการละเล่นของคนไทย CU Innovation Hub ได้รับการจัดตั้งและสนับสนุนโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาการคิดเชิงสร้างสรรค์และทักษะในการประกอบธุรกิจสำหรับนิสิตและเจ้าหน้าที่ผ่านการจัดงาน Hackathon เวทีอภิปรายและโครงการอบรมที่มีความหลากหลาย
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ innovationhub.chula.ac.th.

เคเอ็กซ์แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KX)
เคเอ็กซ์หรือศูนย์แลกเปลี่ยนความรู้ด้านนวัตกรรมเป็นจุดเริ่มต้น จุดเชื่อมต่อประสานและเป็นแหล่งบริการครบวงจรโดยมีพันธกิจที่จะ “เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทย” เคเอ็กซ์ให้บริการโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตรวมไปถึงโครงการเร่งรัดนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพ เคเอ็กซ์มีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการพัฒนา SME ที่เข้มแข็งเพื่อเศรษฐกิจไทยที่มั่นคงยิ่งขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.kxchanges.com.

CalCEF/New Energy Nexus
New Energy Nexus สนับสนุนสตาร์ทอัพที่สมาร์ท เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกระจายตัวอยู่ทั่วโลกโดยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เกิดการร่วมมือและนวัตกรรมระหว่างผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ศูนย์บ่มเพาะและเร่งรัดนวัตกรรมและผู้ประกอบการที่มุ่งเปลี่ยนแปลงระบบพลังงานในอนาคต New Energy Nexus ได้รับการสนับสนุนจาก California Clean Energy Fund (CalCEF) ซึ่งได้มีการลงทุนและเร่งรัดนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดและระบบนิเวศของสตาร์ทอัพมากว่าหนึ่งทศวรรษ CalCEF มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่ายสถาบันวิจัยด้านพลังงานสะอาด ศูนย์บ่มเพาะและเร่งรัดนวัตกรรมและนักลงทุนในสตาร์ทอัพ
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.energynexus.co.

_____________________________________________________________

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ปริยา วงศาโรจน์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ)
โทรศัพท์ 02-661-9273 ต่อ 165
อีเมล์ pariya.wongsarot@giz.de