ทส. ร่วมอนุรักษ์ทะเลไทยในงานวันทะเลโลกประจำปี ๒๕๕๘ ย้ำปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ไข พร้อมจับมือภาคีเครือข่ายชุมชนที่เกี่ยวข้องด้านทะเลร่วมทำปฏิญญาแสดงเจตนารมย์ร่วมกันดูแลรักษาท้องทะเลไทยให้มีความยั่งยืน
พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันทะเลโลก ๒๕๕๘ ณ ชายหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการดูแลรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของชาติ โดยมีเป้าหมาย สงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างบูรณาการที่ตอบสนองต่อการพัฒนา และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและเป็นธรรม ซึ่งปัจจุบันทรัพยากรทางทะเลของไทยต้องประสบกับภาวะเสื่อมโทรมลงเป็นอย่างมาก ทั้งที่เกิดโดยธรรมชาติและเกิดจากน้ำมือมนุษย์ ได้แก่ ปัญหาความเสื่อมโทรมของป่าชายเลนที่มีพื้นที่ป่าสมบูรณ์เหลืออยู่เพียง ๑.๕๒ ล้านไร่ ปัญหาการตายของสัตว์ทะเล หายาก เช่น เต่าทะเล โลมา พะยูน ปัญหาแนวปะการังที่มีความสมบูรณ์เพียงร้อยละ ๑๐ – ๒๐ ปัญหาขยะทะเลในรอบ ๖ ปีที่มีสถิติสะสมสูงถึงกว่า ๕๐ ตัน และผลกระทบจากการท่องเที่ยว ปัญหาเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขและฟื้นฟู โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยผลักดันให้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อคุ้มครอง ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายน 2558 ทั้งนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวจะเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายทางทะเล
นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวต่อไปว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมวันทะเลโลก ประจำปี ๒๕๕๘ ขึ้น เพื่อมุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนหันมาดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชน และเครือข่ายต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรเหล่านี้ ภายใต้แนวคิด Healthy oceans, healthy planet หรือ มหาสมุทรและทะเลเป็นหัวใจของโลกที่ทุกคนต้องร่วมกันดูแล ภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการจัดนิทรรศการความรู้ทางทะเล การเก็บขยะทั้งบนชายหาดและในทะเล รวมทั้งการเผยแพร่ข่าวสารความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลสู่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกระดับ ซึ่งนอกจากจะสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเล และให้เกิดการตื่นตัวในการร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเลแล้ว ภายในงานยังมีการลงนามในปฏิญญาร่วมกัน 8 เครือข่าย คือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ชมรมเรือหางยาวอ่าวป่าตอง ชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา ชมรมเจ็ตสกีหาดป่าตอง เรือนำเที่ยวดำน้ำ liveaboard ชมรม Go Eco Phuket สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามัน และสมาคมประมงภูเก็ต เพื่อแสดงเจตนารมณ์และความร่วมมือในการร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล โดยเน้นภาคีเครือข่ายในการเฝ้าระวังลดการทิ้งขยะในทะเล ลดภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับทะเล เช่น การดำน้ำ การท่องเที่ยวทางทะเล การประมง การเฝ้าระวังภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทางทะเล รวมทั้งมีนำเสนอแนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและการแก้ไขปัญหา การจัด Road Map การนำเสนอกลยุทธ์เพื่อกำหนดทิศทางการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้มีความยั่งยืน ตลอดจนหาแนวทางสร้างความเข้าใจร่วมกันกับภาคประชาชน ชุมชนชายฝั่ง ให้ตระหนักรู้ในข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ของชุมชน ซึ่งการแสดงเจตนารมย์ในปฏิญญาร่วมกันที่จัดขึ้นที่ จ.ภูเก็ตในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายความร่วมมือไปยังภาคเครือข่ายในจังหวัดชายฝั่งทะเลอื่น ๆ ต่อไป
