ดาว เคมิคอล แสดงวิสัยทัศน์ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในภูมิภาคเอเชีย มุ่งเน้นเรื่องความเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานโลกและสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขัน

0
234
image_pdfimage_printPrint

นาย ปีเตอร์ ไซค์ส ประธานบริษัท ดาว เคมิคอล ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแห่งภูมิภาคเอเชีย ‘Asia Petrochemical Industry Conference’ (APIC) 2014 โดยเน้นความสำคัญต่อความสามารถในการพลิกความท้าทายของสภาพแวดล้อมที่ผันผวน ให้กลายเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในภูมิภาคเอเชีย ควบคู่กับการสร้างความเปลี่ยนแปลงอันยั่งยืนให้แก่สังคม โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานด้านปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ทั่วโลกกว่า 1,000 คน เข้าร่วมงาน

 APIC1

ในหัวข้อการประชุมเรื่องTransformation: A Map Redrawn’นายปีเตอร์ ไซค์ส กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงทางพลวัตรด้านพลังงานส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งบริษัท    ต่าง ๆ ต้องประสบปัญหาด้านต้นทุน ดังนั้น เพื่อสร้างความมั่นคงและรักษาความสามารถทางการแข่งขันด้านพลังงาน  จึงจำเป็นที่ภาครัฐต้องกำหนดนโยบายด้านพลังงานที่มีความสมดุลและชัดเจนเพื่อส่งเสริมการค้าที่เสรีและเป็นธรรมยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางด้านธุรกิจ เราต้องผลิตสินค้าและหาโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่โลกต้องการ และสามารถต่อยอดเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้ เพื่อชดเชยปัญหาด้านต้นทุน ทั้งนี้ตลาดจะเป็นตัวตัดสินและตอบสนองผู้ที่สามารถนำเสนอโซลูชั่นเหล่านั้นได้”

 

ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีความต้องการนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณูปโภค การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าถึงอาหารและน้ำ รวมทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคให้มีอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ เพื่อรองรับชุมชนเมืองและฐานการบริโภคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ดาว จึงได้ขยายการเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างมาก โดยมียอดขายคิดเป็นสัดส่วนถึง 18 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายโดยรวมของ ดาว ทั่วโลกในปัจจุบัน และนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 เป็นต้นมา บริษัทฯได้เพิ่มจำนวนโรงงานและพนักงานขึ้นอีกเท่าตัว และมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 6.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีพ.ศ. 2556

 

นายปีเตอร์ ไซค์ส ยังชี้ให้เห็นถึงนวัตกรรมต่างๆ ของ ดาว ที่ช่วยให้ผู้คนในโลกได้มีน้ำสะอาดใช้ในหลายพื้นที่ ช่วยพัฒนาวิธีการผลิตอาหารให้ดีขึ้น และการนำความรู้ความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ มาช่วยในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงการให้ความสำคัญต่อความร่วมมือทางด้านนวัตกรรมโดยกล่าวว่า “เราเชื่อว่าหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดของการเติบโตในทวีปเอเชีย คือการสร้างพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์และเอื้อประโยชน์แก่กัน ประกอบด้วย ลูกค้า หน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ และผู้นำด้านอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ จะช่วยให้เราเข้าใจตลาดในระดับท้องถิ่นได้รวดเร็วขึ้น รวมทั้งจะช่วยให้เรารู้ว่าต้องใช้นวัตกรรมใดบ้างเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ทวีปเอเชีย”

 

นวัตกรรม นอกจากจะช่วยสร้างมูลค่าให้แก่บริษัทแล้ว ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์สามารถสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดแก่ผู้คนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิกฟิกได้อีกหลายชั่วอายุคน  “เราได้สร้างความมั่นคงให้แก่อุตสาหกรรม เพื่อนำไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์ และเรายังทำให้ทั่วโลกมองเห็นว่าอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไม่ได้เป็นเพียงส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนอีกด้วย” นายปีเตอร์ ไซค์ส์ กล่าวทิ้งท้าย

 

การประชุมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแห่งภูมิภาคเอเชีย (APIC) เป็นการประชุมของตัวแทนจากสมาคมเคมีภัณฑ์ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย  โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญอยู่ที่การสร้างพันธมิตรและสานมิตรภาพระหว่างผู้ดำเนินกิจการด้านปิโตรเคมีทั้งในทวีปเอเชียและทั่วโลก รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาการของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในเอเชียควบคู่กันไป