จีเอ็ม เปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสที่สอง 1.2 พันล้านเหรียญฯ

0
359
image_pdfimage_printPrint
  • รายได้ต่อหุ้นอยู่ที่ 0.75 เหรียญฯ รวมถึงการขาดทุนสุทธิของรายการพิเศษ 0.09  เหรียญฯต่อหุ้น
  • รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีอยู่ที่ 2.3 พันล้านเหรียญฯ

 Q2 Earning Release

ดีทรอยท์ 25 กรกฎาคม 2556  – เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศกำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญในงวดไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญฯ หรือ 0.75 เหรียญฯ ต่อหุ้น (fully diluted –กรณีมีการใช้สิทธิ์ตามหลักทรัพย์แปลงสภาพอย่างเต็มที่) โดยผลประกอบการดังกล่าวได้รวมผลขาดทุนจากรายการพิเศษซึ่งทำให้กำไรสุทธิลดลง 0.2 พันล้านเหรียญฯ หรือ 0.09 เหรียญฯ ต่อหุ้น (fully diluted)

 

ในไตรมาสที่สองของปี 2555 กำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญของจีเอ็มอยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญฯ หรือ 0.90 เหรียญฯ ต่อหุ้น (fully diluted)

 

เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2555 แล้ว กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีเพิ่มขึ้น 500 ล้านเหรียญฯ หรือเท่ากับ 0.29 เหรียญฯต่อหุ้น (fully diluted)

 

รายได้สุทธิในไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ 3.91 หมื่นล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นจาก 3.76 หมื่นล้านเหรียญฯ ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 2.3 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 2.1 พันล้านเหรียญฯ

 

“เรายังคงมีผลประกอบการที่ดีในตลาดที่มีความสำคัญที่สุดในโลก อย่างสหรัฐอเมริกาและจีน” มร. แดน เอเคอร์สัน ประธานใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม กล่าว “ธุรกิจของเราในยุโรปมีความก้าวหน้าที่ดี ส่วนแบรนด์ระดับโลกของเราทั้งเชฟโรเลต และคาดิลแลค ต่างมีการดำเนินงานที่มั่นคง สำหรับในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เราจะมุ่งเน้นที่การมัดใจลูกค้าด้วยรถที่มีคุณภาพและความคุ้มค่าสูง”

 

ภาพรวมผลประกอบการของจีเอ็ม (ตัวเลขหลักพันล้านเหรียญฯ ยกเว้นในส่วนของหุ้น)

 

 

 

ไตรมาสที่สอง 2556

ไตรมาสที่

สอง 2555

 

 

 

 

รายได้

 

   $39.1

$37.6

กำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ

 

 $1.2

  $1.5
กำไรต่อหุ้นหากมีการใช้สิทธิตามหลักทรัพย์แปลงสภาพ

   $0.75

$0.90

 

ผลกระทบของรายการพิเศษต่อกำไรต่อหุ้นหากมีการใช้สิทธิตามหลักทรัพย์แปลงสภาพ

                  $(0.09)

 

รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีเงินได้

$2.3

  $2.1
 

กระแสเงินสดสุทธิจากธุรกิจยานยนต์

 

 $4.5

   $3.8
กระแสเงินสดอิสระจากธุรกิจยานยนต์

 $2.6

  $1.7

 

ผลประกอบการแยกตามภูมิภาค

 

  • จีเอ็ม อเมริกาเหนือ รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ 2.0พันล้านเหรียญฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปี 2555 อยู่ที่ 1.9 พันล้านเหรียญฯ
  • จีเอ็ม ยุโรป รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีไตรมาสสองประจำปี 2556 อยู่ที่ 100 พันล้านเหรียญฯ เมื่อเทียบผลการดำเนินงานไตรมาสที่สองของปี 2555 ซึ่งมีอยู่ที่ 400 ล้านเหรียญฯ
  • จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ รายงานผลรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีไตรมาสสองของปีนี้อยู่ที่ 200 ล้านเหรียญฯ เทียบกับไตรมาสสองประจำปี 2555 ที่ 600 ล้านเหรียญฯ
  • จีเอ็ม อเมริกาใต้ รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีไตรมาสที่สองอยู่ที่ 100 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 0 ล้านเหรียญฯ

 

  • รายได้ทางการเงินของจีเอ็ม ก่อนภาษีในไตรมาสสองปี 2556 อยู่ที่ 300 ล้านเหรียญฯ เทียบกับ 200 ล้านเหรียญฯในไตรมาสสองของปี 2555

กระแสเงินสดและสภาพคล่อง

 

ในไตรมาสสองที่ผ่านมา กระแสเงินสดจากธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 4.5 พันล้านเหรียญฯ ขณะที่กระแสเงินสดอิสระจากธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 2.6 พันล้านเหรียญฯ จีเอ็ม สิ้นสุดไตรมาสที่สองของปีนี้ด้วยสภาพคล่องอันแข็งแกร่ง 34.8 พันล้านเหรียญฯ พร้อมกับมีกระแสเงินสดรถยนต์และหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดอยู่ที่ 24.2 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับ 24.3 พันล้านเหรียญฯ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556

 

“ผลประกอบการในไตรมาสนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำเร็จของคาดิลแลค เอทีเอส เชฟโรเลต
อิมพาลา และโอเปิล ม็อกกา” มร. แดน อัมมานน์ รองประธานอาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของจีเอ็ม กล่าว “เราจะเดินหน้าก้าวข้ามความท้าทายทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบและที่สำคัญที่สุด คือการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า”

 

###