จีอี ประกาศกลยุทธ์

0
633
image_pdfimage_printPrint

จีอี ประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์ผลักดันกลุ่มธุรกิจพลังงาน การบิน  สุขภาพ  และอุปกรณ์แสงสว่าง เจาะตลาดไทยปี 2555

กรุงเทพฯ – 31 มกราคม 2555 – จีอี ประเทศไทย พร้อมนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน การบิน สุขภาพ และอุปกรณ์แสงสว่าง ผลักดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ปูทางส่งเสริมประเทศไทยก้าวสู่ผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนในปี 2558

 

นายโกวิทย์ คันธาภัสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี ประเทศไทย เปิดเผยว่า  ในปี 2555 นี้ จีอี พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมให้ประเทศไทยใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผ่านเทคโนโลยีอันทันสมัยของจีอี  พร้อมกับสนับสนุนกลุ่มบริษัทในประเทศไทยให้สามารถขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทางด้านพลังงาน ด้านการแพทย์ รวมถึงธุรกิจการบิน และอุปกรณ์แสงสว่าง

 

ทั้งนี้ จีอีจะมุ่งเน้นพัฒนาความเป็นเลิศทางธุรกิจและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด พร้อมกับการสร้างความแข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ในปีที่ผ่านมาจีอี ประเทศไทยสามารถสร้างยอดการเติบโตได้กว่า 40% และเราตั้งเป้าการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในปี 2555 นี้

 

“จีอี ตระหนักถึงความท้าทายที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่ และจีอีเองก็มุ่งนำความคิดสร้างสรรใหม่ๆ มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับอนาคตที่ดีกว่า เราพร้อมนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงาน ด้านการให้บริการสาธารณสุข การคมนาคม และสาธารณูปโภค เพื่อช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ รวมถึงผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนในโลกใบนี้” ซีอีโอ จีอี ประเทศไทย กล่าว

 

นายโกวิทย์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีความต้องการใช้พลังงานจำนวนมหาศาล ประเทศไทยเองก็มีความท้าทายด้านการแสวงหาแหล่งเชื้อเพลิงใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการในการใช้งานพลังงานที่มากขึ้น ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของจีอี ในการนำเสนอเทคโนโลยี โซลูชั่น ผลิตภัณฑ์และการบริการให้กับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากธรรมชาติให้สอดคล้องกับความต้องการของโลกยุคปัจจุบัน ได้แก่ พลังงานทดแทน เช่น น้ำ ลม แสงอาทิตย์ และก๊าซชีวภาพ ตลอดจนเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นๆ  และจีอียังมีบริการในการให้การบำรุงรักษาระยะยาวแก่ลูกค้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถสนองความต้องการในอนาคตของธุรกิจพลังงานของไทย โดยเฉพาะในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน อาทิเช่นการใช้หลอดไฟแอลอีดีประหยัดพลังงานของจีอี รวมถึงการเลือกใช้พลังงานทดแทนที่เหมาะสม

 

สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย กลุ่มพลังงาน ภายใต้จีอี เอนเนอร์ยี (GE Energy) ประกอบด้วย จีอี เพาเวอร์แอนด์วอเตอร์ (GE Power and Water) จีอี เอนเนอร์ยีแมนเนจเมนท์ (GE Energy Management) และ จีอี ออยล์แอนด์แก๊ส (GE Oil & Gas) โดยในปีที่ผ่านมา จีอี เอนเนอร์ยี  ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กังหันก๊าซขนาด 50 เมกะวัตต์ FlexAero GE LM6000 – PH นวัตกรรมล่าสุดภายใต้แนวคิด อีโคแมจิเนชั่น (Ecomagination) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่มีการลงทุนผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

 

ในส่วนของกลุ่มจีอี เฮลธ์แคร์ (GE Healthcare) ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดเฮลธ์ตี้แมจิเนชั่น (Healthymagination) ซึ่งมุ่งขจัดปัญหาท้าทายต่างๆ ที่ระบบบริการดูแลสุขภาพกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในแง่ค่าใช้จ่าย คุณภาพ และการเข้าถึงบริการ รวมถึงเพื่อช่วยให้ประชาชนทั่วไปมีสุขภาวะที่ดีขึ้น ในปีที่ผ่านมา จีอี เฮลธ์แคร์สามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้กับทางโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โดยจีอี เฮลธ์แคร์ มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักจากปี 2553

 

สำหรับ จีอี อะวิเอชั่น (GE Aviation) ตลอดปีที่ผ่านมา จีอี อะวิเอชั่น มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่ม ‘อีโคแมจิเนชั่น’ เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญเช่น GEnxและ GE90 ในปีที่ผ่านมา จีอีอะวิเอชั่น ได้บรรลุข้อตกลงกับการบินไทย สำหรับเครื่องยนต์ รุ่น GE90 และได้มีการฉลองครบรอบ 25 ปีในการใช้เครื่องยนต์รุ่น CF6 ของจีอีอีกด้วย

 

เครื่องยนต์ GE90-115B เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘อีโคแมจิเนชั่น’ เป็นเครื่องยนต์อากาศยานที่ทรงพลังที่สุดของโลกในปัจจุบัน โดดเด่นด้วยต้นทุนค่าน้ำมันต่อที่นั่งต่ำที่สุด และมีการปล่อยก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่ 40% ซึ่งเป็นระดับที่ได้มาตรฐานโลก ในบรรดาเครื่องยนต์อากาศยานของจีอีในปัจจุบัน เครื่องยนต์ GEnx ที่ติดตั้งกับเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันถึง 15% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเก่า ซึ่งส่งผลให้มีไอเสียน้อยลง 15% ด้วยเช่นกัน และด้วยใบพัดขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้ระดับเสียงลดลงถึง 30% นับเป็นเครื่องยนต์ที่เงียบที่สุดที่จีอีผลิตขึ้นมา

 

สำหรับส่วนของ จีอี ไลท์ติ้ง (GE Lighting) ในปีที่ผ่านมา จีอี ได้เติบโตในตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลอดไฟในกลุ่มแอลอีดี (LED) สำหรับธุรกิจโรงแรมภัตตาคารและร้านค้า และในปี 2555 จีอี ไลท์ติ้ง ก็ยังคงเน้นทำตลาด ด้วยการรักษาจุดยืนที่มีมาตลอด 130 ปี ในฐานะผู้ผลิตหลอดไฟรายแรกของโลก  เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมหลากหลาย ตั้งแต่หลอดไฟที่เน้นอายุการใช้งานนาน ประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพการส่องสว่างสูง รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย ไปจนถึงหลอดไฟแอลอีดี (LED) ประสิทธิภาพสูงที่มีคุณสมบัติทั้งหมดครบถ้วน และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดอีโคแมจิเนชั่น (Ecomagination) อีกด้วย

 

จีอี เชื่อว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอีกมาก เพราะไทยยังมีทรัพยากรที่เป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ อีกมาก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางของเออีซีด้วยเช่นกัน” นายโกวิทย์ ซีอีโอ จีอี ประเทศไทย กล่าว

นายโกวิทย์ คันธาภัสระ

 

เกี่ยวกับจีอี

จีอีมุ่งมั่นในการคิดค้นสิ่งที่ดีต่อมนุษยชาติ ด้วยบุคลากรที่เก่งที่สุด และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุด  โดยมุ่งหาวิธีแก้ปัญหาในด้านพลังงาน สุขภาพและที่อยู่อาศัย การขนส่งและการเงิน ด้วยการสร้างและเพิ่มพลังการขับเคลื่อนในการดูแลรักษาโลกของเรา  เหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่จินตนาการ แต่จีอีเราลงมือทำ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ge.com

 

อีโคแมจิเนชั่น (Ecomagination) เป็นแนวคิดริเริ่มทางธุรกิจที่เกิดจากความตระหนักถึงความท้าทายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน  ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเจตนารมณ์ที่จะพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับปัจจัยความท้าทายเหล่านี้พร้อมทั้งสร้างผลกำไรเพิ่มเติมให้แก่บริษัทฯ  โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2558 จีอีจะเพิ่มการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาเป็น 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ  ลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 50 ลดการใช้น้ำลงร้อยละ 25 และเพิ่มรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวกับอีโคแมจิเนชั่นเป็นสองเท่า

 

เฮลธ์ตี้แมจิเนชั่น (Healthymagination) คือ กลยุทธ์ทางธุรกิจด้านการลงทุนแบบใหม่เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขอนามัย ตลอดจนเพิ่มคุณภาพบริการด้านสุขอนามัยสำหรับคนนับล้านๆ คนทั่วโลก พร้อมกับผลักดันการเติบโตให้แก่จีอี  ปัจจุบัน จีอีมีผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากเฮลธีเมจิเนชั่น 24 รายการ  รวมทั้งก่อตั้งกองทุนมูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาเป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านเหรียญ  จัดโครงการรณรงค์เพื่อผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคกว่า 135 ล้านคนทั่วโลก

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ

เมธาวี เฉลิมธนศักดิ์ / ภคินี เทียมคลี

บริษัท เอฟ เอ คิว จำกัด

โทรศัพท์: 1+66 2 971 3711 ต่อ 120

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.