งานเสวนากิจกรรมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โครงการพัฒนาศักยภาพเมืองพัทยาให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศทางประชาคมอาเซียน

0
994
image_pdfimage_printPrint

ARM_4591-news

งานเสวนากิจกรรมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ในโครงการพัฒนาศักยภาพเมืองพัทยาให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศทางประชาคมอาเซียน จัดขึ้น ณ โรงแรมอมารี ออคิด พัทยา
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเตรียมความพร้อมในการเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัว ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จากรายงานผลการสำรวจข้อคิดเห็นเกี่ยวกับทัศนคติในการรับรู้เรื่องอาเซียน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าตนเองเป็น “พลเมืองอาเซียน” ไม่ถึงร้อยละ ๖๕ รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของประเทศ เพื่อร่วมผลักดันให้เกิดการสร้างประชาคมอาเซียน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนที่สมบรูณ์ โดยการสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งทั้ง ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การเมือง และความมั่นคง การเตรียมความพร้อมของประเทศไทยสู่การเป็นประชาคมอาเซียน มีประเด็นเร่งด่วนโดยเน้นใน ๓ มิติหลัก ได้แก่ การปรับโครงสร้างส่วนราชการ การสร้างความตระหนักรู้และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียน การเตรียมความพร้อมภาคเอกชนและแรงงาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการจัดทำยุทธ์ศาสตร์เพื่อลดทอนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (กลุ่มงานนโยบายกรมอาเซียน) ณ จุดเปลี่ยนที่สำคัญนี้ เมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองยุทธ์ศาสตร์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่ามหาศาลให้กับประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งนับจากนี้ไปพัทยา อาจเหลือเวลาอีกไม่มากนัก ในการเตรียมตัวทั้งในเชิงรุกและเชิงรับรองการเป็น “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ในปี ๒๕๕๘ ได้มีการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นจากเดิมที่เน้นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางการค้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน หรืออาฟตา (AFTA) ด้านเดียว แต่ด้านภาวะการแข่งขัน และกระแสการรวมกลุ่มเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ที่รุนแรงขึ้นทำให้ประเทศอาเซียนได้พยายามสร้างความเป็นปึกแผ่นทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาคอันจะช่วยเพิ่มบทบาทและอำนาจต่อรองของอาเซียนในเวทีเศรษฐกิจโลกมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งประชาคมอาเซียน หรือ AEC ขึ้น อันจะเอื้อให้ประเทศอาเซียนทั้ง ๑๐ ประเทศ กลายเป็น “ตลาดและฐานการผลิตเดียว” ซึ่งจะทำให้ขอบเขตการค้าและการลงทุนเปิดกว้างขึ้นจากเดิมอีกหลายเท่า จากขนาดตลาดที่มีประชากรสูงสุดเพียง ๕ แสน-๒๐๐ ล้านคน ก็จะขยายขึ้นเป็นระดับ ๖๐๐ ล้านคน จึงนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเศรษฐกิจและธุรกิจไทย โดยเฉพาะธุรกิจของพัทยา ควรที่จะศึกษาและทำความรู้จัก AEC ให้เข้าใจและทราบถึงโอกาสและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อการวางแผนและปรับกลยุทธ์รองรับ และมองหาจุดยืนของธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มตัวในปี ๒๕๕๘ เมืองพัทยาจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงและโอกาสต่าง ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุน ด้วยการศึกษาจัดทำแนวทางการส่งเสริมการลงทุนและท่องเที่ยวให้กับภาคผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการของเมืองพัทยา
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินกิจกรรมการขับเคลื่อนเมืองพัทยาเข้าสู่การเปิดเสรีอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ตามแผนปฏิบัติการการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่เมืองพัทยาได้จัดทำขึ้น ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และนอกพื้นที่ ได้เข้าใจและสามารถกำหนดบทบาท วางแผนงานธุรกิจให้สอดคล้องกับการดำเนินงานตามแผนงานต่างๆ ที่เมืองพัทยาได้จัดทำขึ้นอย่างมีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมทั้งการเข้าสู่ความเป็นเมืองผู้นำในการเตรียมความพร้อมและสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดความร่วมมือในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องระหว่างผู้นำในด้านต่าง ๆ ในระดับเมือง จังหวัด เมืองหลวงและรัฐบาลในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และเพื่อเปิดเวทีการแสดงวิสัยทัศน์และรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน จากผู้นำ ผู้ทรงคุณวุฒิและวิทยากร ในสาขาอาชีพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ได้ร่วมกันให้ความรู้ แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะ ให้เกิดความร่วมมือกันในระดับต่างๆ ทั้งในพื้นที่สู่ระดับอาเซียนเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินกิจกรรมการขับเคลื่อนเมืองพัทยาเพื่อก้าวเข้าสู่การเปิดเสรีอาเซียนในปีนี้ เมืองพัทยาจึงได้ทำการศึกษาโครงการนำร่อง กำหนดบทบาท วางแผนงานธุรกิจในเชิงรุกและเชิงรับส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยวตามศักยภาพและข้อได้เปรียบในหลาย ๆ ด้านของเมืองพัทยา เพื่อให้นำไปสู่ทิศทางและเน้นย้ำไปสู่เป้าหมายที่ชัดเจน