“คอนติเนนทอล” คอนเฟิร์มยอดขายทั้งปี 2555 เป็นไปตามเป้า พร้อมแจงกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจสำคัญ เล็งขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง ตั้งอัตราเติบโตสูงกว่าตลาด

0
345
image_pdfimage_printPrint
  • 9 เดือนแรกปี 2555 มียอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 9.1% อยู่ที่ 24,600 ล้านยูโร
  • ยอดข

มร. โธมัส แชมเบอร์ส กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด และหัวหน้ากลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิค รับผิดชอบประเทศในกลุ่มอาเซียนและออสเตรเลีย แถลงข่าวผลประกอบการสิ้นสุดไตรมาส 3 ปี 2555 ของบริษัทคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ว่า ใน 9 เดือนแรกของปี 2555 คอนติเนนทอลมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 9.1% อยู่ที่ 24,600 ล้านยูโร โดยคาดการณ์ว่าทั้งปี 2555 จะโตมากกว่าปีก่อนหน้า 7% หรือมียอดขายถึงกว่า 32,500 ล้านยูโร ด้านยอดขายในเอเชียอยู่ที่ 5 พันล้านยูโร ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนถึง 43 แห่ง สำนักงานขาย 30 แห่ง บริษัทร่วมลงทุน 16 แห่ง และมีพนักงานทั้งหมด 30,000 คน ในภูมิภาคเอเชีย

 

สำหรับความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน เขากล่าวถึงการแข่งขันในตลาดแรงงานฝีมือ การจัดการทรัพยากรบุคคล การออกกฎหมาย และการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2558 ทั้งนี้ โอกาสในการดำเนินธุรกิจสำหรับคอนติเนนทอลนั้น ได้แก่ การที่โลกเชื่อมต่อถึงกันหมด การคิดค้นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือเทคโนโลยีสีเขียว การตอบโจทย์ความต้องการผู้ผลิตระดับโลกของภูมิภาคด้วยโซลูชั่นของทั่วโลก

 

นอกจากนี้ เขายังให้ความเห็นว่าตลาดยานยนต์ของอาเซียนจะสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ต้องมีลักษณะ 5 ประการ:

  1. รถยนต์ที่ผลิตต้องมีมาตรฐานการผลิตเดียวกันทั้งภูมิภาค
  2. คุณภาพเชื้อเพลิงมีมาตรฐานที่ดีขึ้น
  3. มีการให้สิทธิพิเศษด้านภาษีสำหรับการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ
  4. ทุกประเทศต่างพัฒนาฝีมือแรงงานให้ดีขึ้น
  5. มีการกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในภูมิภาคอาเซียนที่โปร่งใส

 

กลยุทธ์สำคัญของคอนติเนนทอล คือ การสร้างการเติบโตต่อเนื่องให้สอดคล้องกับทิศทางเมกะเทรนด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ในด้านความปลอดภัย การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสื่อสารและการเชื่อมต่อข้อมูล และการเป็นรถยนต์ราคาประหยัด ควบคู่กับ การเน้นการลงทุนในภูมิภาคที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (BRIC) โดยเรียง 5 ลำดับความสำคัญ ได้แก่ จีน บราซิล รัสเซีย กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกซึ่งรวมประเทศไทย และอินเดีย และเมื่อเทียบกับปี 2554 ยอดขายเพิ่มขึ้น 2 เท่าด้วยสัดส่วนการส่งออกที่สูง และมุ่งพัฒนาไปตามเทรนด์ของการผลิตระบบแพลตฟอร์ม เนื่องจากลูกค้าของบริษัทมีการผลิตในระบบแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ด้านมร.เดิร์ค ยานอฟสกี้ ผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการโรงงาน กล่าวเสริมว่า ปี 2555 บริษัทลงทุนไป 600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และปี 2556 บริษัทจะขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยโรงงานเพาเวอร์เทรนที่อมตะ ซิตี้ มีศักยภาพในการผลิตหัวฉีดเพียโซคอมมอนเรล 2.5 ล้านชิ้นและปั๊มแรงดันสูง 500,000 ชิ้น โดยการผลิตเต็มศักยภาพจะบรรลุในปี 2558 ปัจจุบัน บริษัทใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 40% และจะเพิ่มให้ถึง 70% ในอนาคต

 

เขาเปิดเผยว่า เมื่อเทียบกับปี 2554 ยอดการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เช่นเดียวกับการขายที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าด้วยสัดส่วนการส่งออกที่สูง และสำหรับกรณีตลาดแรงงานไทยที่แข่งขันกันสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยชื่อเสียงที่ดีและผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย คอนติเนนทอลจึงประสบความสำเร็จในการหาแรงงานฝีมือที่ต้องการได้

 

ดร.ณรงค์ศักดิ์ รัตนสุวรรณชาติ ผู้อำนวยการประจำหน่วยงานบริหารการขายและลูกค้าสัมพันธ์และหน่วยงานวางแผนพัฒนาธุรกิจและการตลาด กล่าวเสริมด้านการพัฒนาธุรกิจและการบริหารลูกค้า ว่าปัจจุบันลูกค้าหลักในประเทศไทยของบริษัทคือ ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (ฟอร์ดและมาสด้า) และลูกค้ารายอื่นได้แก่ ฮอนด้า มิตซูบิชิ นิสสัน ซูซูกิ จีเอ็ม และฟอร์ด และสำหรับธุรกิจเทรดดิ้งปี 2556 บริษัทจะมีโครงการเพิ่ม 3 โครงการ สำหรับลูกค้า 2 ราย นอกจากนี้บริษัทยังใช้แผนการดำเนินงานที่ตั้งอัตราการเติบโตของบริษัทสูงกว่าของตลาดอีกด้วย

 

ด้วยยอดขาย 30,500 ล้านยูโรในปี 2554 ทำให้คอนติเนนทอลจัดอยู่ในกลุ่มบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของโลก ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตระบบเบรค ระบบและชิ้นส่วนของธุรกิจระบบส่งกำลังและแชสซี ชุดอุปกรณ์เครื่องมือ วิธีการแบบอินโฟเทนเมนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกสำหรับยานยนต์ ยางรถยนต์และยางเฉพาะทางอิลาสโทเมอร์ คอนติเนนทอลจึงมีส่วนร่วมในการเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่และป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นส่วนผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเครือข่ายภาคยานยนต์ ปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 170,000 คนใน 46 ประเทศ

___________________________