กลุ่มทรู รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2556 รายได้จากการให้บริการโดยรวมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

0
203
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพฯ 15 พฤษภาคม 2556 – บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2556 โดยมีรายได้จากการให้บริการโดยรวมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ทั้งจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของทรูมูฟ เอช   และความสำเร็จจากการขยายบริการบรอดแบนด์ไปสู่ต่างจังหวัดซึ่งทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์
รวมทั้งรายได้ค่าสมาชิกของทรูวิชั่นส์
ที่เพิ่มขึ้น

ในไตรมาส 1 ปี 2556 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม จำนวน 16.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับ
ไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่จากรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของทรูมูฟ เอช  อันเป็นผลจากอัตราการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และรายได้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ของบริการบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตที่ประสบความสำเร็จ จากการขยายบริการสู่ต่างจังหวัด โดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า  อีกทั้งรายได้ค่าสมาชิกของทรูวิชั่นส์ที่ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังการเปลี่ยนระบบออกอากาศใหม่

ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA เติบโตร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 4.7 พันล้านบาท จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในทั้งสามธุรกิจหลัก และค่าใช้จ่ายด้านการกำกับดูแลที่ลดลง โดยในไตรมาส 1 ปี 2556 กลุ่มทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี เป็น 1.6 พันล้านบาท

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กลุ่มทรูยังคงรักษาความเป็นผู้นำในการให้บริการโมบาย อินเทอร์เน็ต บริการบรอดแบนด์ และบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก

กลุ่มทรู จะยึดมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคข้อมูล ข่าวสาร และสื่อบันเทิง ผ่านบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งแบบมีสายและไร้สายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เรายังคงเดินหน้าในการขยายโครงข่าย 3G ของทรูมูฟ เอช เพื่อให้มีความครอบคลุมในพื้นที่ทุกตำบล ทุกอำเภอ ในทุก 77 จังหวัดของไทยเหนือผู้ประกอบการรายอื่น รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้บริการที่มีคุณภาพเทียบเท่านานาประเทศ  โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทรูมูฟ เอช เปิดให้บริการ 4G LTE บนคลื่นความถี่ 2100 MHz เป็นรายแรกในไทย ด้วยความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลดและอัพโหลดเร็วกว่าเดิม 3-5 เท่า ครอบคลุมย่านเศรษฐกิจสำคัญๆ ในกรุงเทพฯ เช่น สยามสแควร์ สีลม และสาทร โดยจะขยายสู่อีก 15 หัวเมืองหลักภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มเติมจากการขยายโครงข่าย 3G  ของทรูมูฟ เอช อีกทั้งการผสมผสานการให้บริการทั้งบนคลื่นความถี่ 850 MHz และ 2100 MHz ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำเครือข่าย 3G ที่ดีที่สุด ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้บริการโมบาย อินเทอร์เน็ตที่มีความครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น   ตลอดจนการให้บริการ ULTRA hi-speed Internet 10-200 Mbps ซึ่งทรูออนไลน์ถือเป็นผู้ให้บริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ให้ความเร็วสูงสุดในประเทศ ด้วยเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 ซึ่งจะมีความครอบคลุม 61 จังหวัดภายในสิ้นปี 2556 โดยเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 ทำให้กลุ่มทรูสามารถให้บริการคอนเวอร์เจนซ์แบบ Triple Play เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการเคเบิลทีวีและบริการด้านเสียง ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อบนโครงข่ายเดียวกัน อีกทั้ง ทรูวิชั่นส์ยังได้เพิ่มการให้บริการคอนเทนต์คุณภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับการให้บริการช่อง HD ที่มากที่สุดในไทยถึง 23 ช่องตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เร็วๆนี้  กลุ่มทรูได้รับรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจในไทยถึง 3 รางวัลจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก   โดยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมทั้งด้านบริการโมบาย  บริการบรอดแบนด์ และบริการให้เช่าเซิร์ฟเวอร์เสมือนบนระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง   รางวัลเหล่านี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความสำเร็จของกลุ่มทรูในการให้บริการที่ตรงใจลูกค้า   ยังสร้างความมั่นใจได้ว่าธุรกิจหลักของกลุ่มทรูจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ”

นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “ในไตรมาสที่ผ่านมา กลุ่มทรู ประสบความสำเร็จในการจัดหาแหล่งเงินทุน โดยได้รับการสนับสนุนวงเงินกู้ระยะยาวจำนวน 21 พันล้านบาท จากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันและพัฒนาคุณภาพโครงข่ายของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีกทั้ง ความสำเร็จจากการออกหุ้นกู้จำนวน 7.8 พันล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนหนี้สินก่อนกำหนดยังช่วยลดภาระดอกเบี้ย และเสริมความแข็งแกร่งในด้านการเงินของกลุ่มทรู ให้พร้อมเติบโตรับการแข่งขันเสรี”