สามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 5 … ปิดฉากสุดประทับใจ ซึมซับบทเรียนชีวิตล้ำค่า “รัก-รอ-พอ-ให้” สู่เป้าหมายแห่งการ “ตามรอยบาทพุทธศาสดา”
เสียงปาฐกถาธรรมจากเณรน้อยทั้ง 12 รูป ในวันสุดท้ายของการครองผ้า กาสาวพัสตร์ ใน“โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 5” ณ วัดเขาวง จ.สระบุรี นับเป็นช่วงถ่ายทอดคติธรรมหลายประการภายใต้แนวคิด “รัก-รอ-พอ-ให้” ตามแนวทางพระพุทธศาสนา ซึ่งมีญาติโยมนับพันร่วมอนุโมทนาบุญอย่างหนาแน่นในช่วงวันลาสิกขาที่ผ่านมา
สำหรับโครงการสามเณรปลูกปัญญาธรรม เป็นกิจกรรมที่กลุ่มทรูทำมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหามงคลสมัยที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 89 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2559 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 รวมทั้งเพื่อเป็นอีกสื่อหนึ่งที่ร่วมปลูกฝังสิ่งดีงามด้านคุณธรรม และจริยธรรมให้เยาวชน กลุ่มทรู จึงจัดรายการธรรมะรูปแบบเรียลลิตี้ ที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะครอบครัว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยปลูกฝังแนวคิด ค่านิยมที่ถูกต้อง ให้ลูกหลานเติบโตขึ้นเป็นทั้งคนเก่งและคนดีของสังคมในวันข้างหน้า ซึ่งบัณฑิตทั้ง12รูป นับเป็นตัวแทนเยาวชนไทยที่ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ด้านธรรมะ ที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครกว่า3,000 คนทั่วประเทศ และพวกเขาคือผู้ที่ริเริ่มย่างก้าว “ตามรอยบาทพุทธศาสดา”เรียนรู้ธรรมะภายใต้แนวคิด “รัก-รอ-พอ-ให้” อันประกอบด้วย 1.รัก-รู้จักรักด้วยหลักธรรม 2.รอ-รู้จักรอ ไม่ท้อถอย 3.พอ-รู้จักพอ ก่อความสุข และ4.ให้-รู้จักให้ ด้วยใจงาม อันนำไปสู่การส่งต่อสิ่งดีงามแก่ผู้อื่น ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปได้นำข้อคิด คติธรรม จากการรับชมรายการไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
เขตต์ หรือ ด.ช.พสิษญ์ น้อยเจริญ อายุ8 ปี จากจังหวัดหนองคาย หนึ่งในสามเณรปี 5 กล่าวอย่างซาบซึ้งในวันลาสิกขาว่า ช่วงเวลา 1 เดือนที่ได้บวช พ่อกับแม่มาเยี่ยมและมาทำบุญใส่บาตรให้แค่ 2 ครั้ง มีช่วงแรกที่อารมณ์เสียและรู้สึกว่าไม่อยากยอมรับเพื่อนเณร หรือพระครูรูปอื่น รู้แค่เพียงว่าเฝ้านับวันรอวันเลิกบวช แต่พอเวลาผ่านไป หลักธรรมหลายอย่างที่เรียนรู้เช่น เรื่องการมีสมาธิต่อการทำอย่างใด อย่างหนึ่ง และการดูแลตนเอง ช่วยให้เขตต์มีความพยายามจากเดิมหลายเท่า วันนี้เขตต์จึงกล้าบอกกับทุกคนว่า เขาจะกลับมาบวชอีกครั้งเมื่อมีโอกาส
“เมื่อก่อนผมสติหลุดเลยนะ เล่นเกมวิดีโอบ่อยมาก หิวข้าวก็เรียกแม่ อยากไปเที่ยวก็บอกพ่อ ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจก็ทิ้ง ก็อารมณ์เสีย เลิกทำ แต่มาบวชกลายเป็นคนใจเย็นลง ผมดีใจมากที่ผมเลือกบวช เพราะที่บ้านไม่มีใครบังคับ ผมรู้แค่ว่าเครื่องแบบพระเท่ห์ดีผมเลยอยากมา พอบวชจริงๆ ยากมากเลย ไปธุดงค์เป็นช่วงที่ผมชอบที่สุด เพราะอากาศดีมากและผมทำสมาธิสบายๆ จำได้ว่าช่วงนั้นคิดถึงที่นอน คิดถึงพ่อแม่มาก แต่ใช้วิธีตามพระอาจารย์บอกให้กำมือแล้วแบ กำแบ กำแบ มันช่วยได้เพราะผมรู้ตัวเสมอว่าแม่กับพ่อมาหาผมไม่ได้ในนาทีเดียว แต่ผมมีสิทธิคิดถึง แต่ต้องไม่ฟุ้งซ่าน” เขตต์เล่าประสบการณ์
ธรรมะที่เขตต์ปาฐกถาในวันลาสิกขาเป็นเรื่อง “ความรักในตัวเอง” เขตต์ บอกว่า อย่างหนึ่งที่จำได้ฝังใจคือ พระในคำสอนพุทธองค์บอกว่า ความรักใดเสมอด้วยตนเองไม่มี คนเราต้องเริ่มจากรักตัวเองให้ทำให้คิดแต่สิ่งที่ถูก ที่ควร เช่นไม่เล่นอบายมุข ไม่แตะของมึนเมา ก็เป็นการสร้างความรักให้ตัวเอง ซึ่งเมื่อรักจะไม่ทำเช่นนั้นแล้วตัวเองจะมีสุขภาพดี มีใจที่เข้มแข็งไม่หลงไปกับสิ่งยั่วยุ และเมื่อมีสติทำในเรื่องดี งาม คนรอบข้างก็จะร่วมยินดี เท่ากับได้เผยแผ่ความรักแก่คนรอบข้างด้วยเพราะการรักตัวเอง ดูแลตัวเองได้ ภาระหน้าที่ของคนอื่นที่เป็นห่วงเรา ทั้งพ่อ แม่ ครู พี่ น้อง ก็จะไม่ต้องกังวลว่าตัวของเราเองจะทำอะไรไม่ดี ซึ่งเมื่อปฏิบัติธรรมข้อนี้ได้จะช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตลำพังมากขึ้น
ด้านออกัส หรือ ด.ช.ภีมากร กิจขยัน จากกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สิ่งที่อยากทำหลังลาสิกขาแล้ว คือการกอดพ่อแม่ให้นานที่สุด และขอโทษที่ผ่านมาทำตัวเหลวไหล ช่วงที่บวชสามเณรนั้นออกัส กลายเป็นเด็กมีปัญหาที่กลัวการอยู่ร่วมกับคนอื่น คิดถึงบ้าน ร้องไห้และรู้สึกว่าชีวิตแต่ละวันน่าเบื่อ กระทั่งมีเพื่อนๆเข้ามาทักทาย มานั่งเรียนร่วมกัน ออกัสจึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ลำพัง ทำให้ออกัสสามารถดำรงตนเป็นเณรน้อยอย่างสมบูรณ์แบบตลอดเวลาการบวช
“ธรรมะที่พระอาจารย์สอนเป็นเรื่องการมีน้ำใจ เวลาเพื่อนไปกวาดวัด บางครั้งผมก็ไม่อยากช่วย แต่พอเห็นเพื่อนทำกันน้อยคนแล้วเขาเหนื่อยมันเสร็จช้า เราก็กลัวเสร็จช้าไม่ได้กินข้าว ก็ไปช่วยกัน พอช่วยกันมันเสร็จเร็วขึ้น มีเวลาไปทำอย่างอื่น สนุกดี สงสัยกลับบ้านครั้งนี้ ช่วยแม่ทำงานบ้านได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าจะได้บวชอีกไหม มันยากมากแต่ผมก็ทำได้แล้ว บอกแม่ว่ามันยาก แต่ทำได้แล้วขอรางวัลหน่อยกลับบ้านไปขอไปกินช็อคโกแลตก่อนแล้วจะช่วยงาน งานบ้านจะได้เสร็จเร็วขึ้น” ออกัสตั้งเป้าหมายเปลี่ยนแปลงตนเอง
พระอาจารย์หลายรูป ยืนยันตรงกันว่า ออกัสเป็นคนที่เข้ากับเพื่อนยาก เป็นคนไม่ค่อยยิ้ม แต่ธรรมะเรื่องการให้ กับการรอ ช่วยหล่อหลอมให้เขากลายเป็นบัณทิตน้อยในวันนี้ที่เพื่อนๆ รัก ซึ่งในวันลาสิกขาออกัสมีสติรับรู้ว่าตนเองบกพร่องเรื่องใด และเขาให้สัจจะสัญญาต่อหน้าทุกคนว่า เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น
ในส่วนของหนุ่มน้อยลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ดช.เคนเน็ธ ภูมิ รอว์ลี่ จากจังหวัดระยอง กล่าวภายหลังลาสิกขา ว่า ตนเคยมีนิสัยเอาชนะคนอื่นและไม่ยอมใคร เป็นคนตั้งความหวังสูงและทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะคนอื่น เพราะรู้สึกว่าการอยู่เหนือคนอื่นได้เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ พอได้บวชนานเป็นเดือนเริ่มเข้าใจว่า การชนะใจตัวเองสำคัญที่สุด พระอาจารย์สอนว่าทุกการแข่งขันมีแพ้มีชนะ คนที่รู้จักยอมรับไม่ว่าจะเป็นผู้แพ้ หรือผู้ชนะคือคนที่เป็นคนชนะที่แท้จริง พระอาจารย์บอกว่าเป็นผู้ชนะในเกมใดๆที่คนยกย่องมหาศาล ก็ไม่เท่ากับเป็นคนธรรมดาที่เอาชนะใจตัวเองได้ คติธรรมที่ได้เรียนมาเคนเน็ธจึงตั้งใจจะนำไปปรับใช้กับชีวิตการเรียนและตั้งใจเรียนไม่ว่าจะสอบได้ที่เท่าไหร่ของห้องก็ตาม
“ผมสบายดีทุกอย่างช่วงบวช แต่มีบ้างที่รู้สึกว่าเพื่อนมีมากกว่า มีของสวยกว่า แต่ผมเลิกคิดแล้ว มันเสียเวลา ผมชอบช่วงเดินจงกรม เป็นอะไรที่ยากเพราะผมเดินเร็วแต่พระอาจารย์ให้เดินช้าๆ ทำให้ผมใจเย็นลงเลย ถึงจะรีบก็เถอะ ผมขอบคุณพ่อกับแม่ และขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมได้ฝึกในเรื่องยากๆ ครั้งนี้” เคนเน็ธ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถติดตามภาพความประทับใจของโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 5 และรับชมรายการย้อนหลังได้ทางช่องทรูปลูกปัญญา ทรูวิชั่นส์ช่อง 37 และ 116 ซึ่งสามารถรับชมผ่านอุปกรณ์และจานรับสัญญาณระบบอื่นๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ PSI 188 และ DTV 315 ทุกวัน เวลา 7.00 – 8.00 น. ตั้งแต่ 25 พฤษภาคม – 23 มิถุนายนนี้ รวมทั้งผ่านทางออนไลน์ได้ที่ www.trueplookpanya.com/truelittlemonk และ www.youtube.com/Truelittlemonk นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข่าวสารของโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ได้ที่ www.facebook.com/truelittlemonk อีกด้วย