1

“นฤพนธ์ เวียงชนก” โค้ชความรักไฟแรงพร้อมเปิดตัว E Book ที่จะช่วยปลดล็อกทุกปัญหาความรัก

หลายๆ คน อาจจะเคยหัวใจเต้นแรงเวลาที่ได้อยู่ใกล้คนที่ชอบ หรืออาจเคยได้ยินประโยคติดหูที่ว่า ความรัก..ทำให้คนตาบอด และเราอาจจะเคยเห็นกันบ่อยๆ ว่าคนเราสามารถทำอะไรที่ดูพิลึกพิลั่น มีพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากปกติที่เคยเป็น หรือแม้กระทั่งทำในสิ่งที่แปลกไปเมื่อมีความรัก เพราะนั่นเป็นอิทธิพลของความรักที่เป็นพิษนั่นเอง ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ ต่อจากนี้ของ ผู้ชายที่ชื่อ นฤพนธ์ เวียงชนก

ถ้าพอจะจำกันได้ ก่อนหน้านี้ได้มีการกล่าวถึงธุรกิจ
สตาร์อัพใหม่ เกี่ยวกับที่ปรึกษาทางด้านความรักและความสัมพันธ์ จัดโดยนฤพนธ์ เวียงชนก ที่ปรึกษาด้านความรักและความสัมพันธ์ เจ้าของเพจ โค้ชความรักเพื่อคนโสดวัยทำงานเพื่อต้องการพบรักที่ใช่ และรายการ Live 2 Love ซึ่งหลายคนก็คงพอที่จะคุ้นหน้า คุ้นตาผู้ชายคนนี้ นฤพนธ์ เวียงชนก หรือ คุณแมกซ์ มาแล้วก่อนหน้านี้ มาวันนี้เขาได้สานต่อแรงบันดาลใจที่อยากส่งต่อแนวทางความคิดดีๆ ส่งต่อแก่ผู้คน นั่นก็คือ E Book และ Pocket Book ที่คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วง ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

โดยนฤพนธ์ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของ E Book ของเขาว่าเริ่มจากการที่เขาเราต้องการที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆให้สามารถควบคุมสภาวะจิตใจได้อย่างไรเพื่อทีพวกเขาจะไม่ต้องมาเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากความรักอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องมาเจ็บปวดจากการต้องคอยใช้ชีวิตอยู่ใต้ความกลัวและความไม่แน่นอนแต่ความจริงคือเราสามารถที่จะมีความสุขกับการเดินทางด้วยหัวใจที่มีอิสระอย่างแท้จริง
เขากล่าวอีกว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน นึกอะไรไม่ออก มีแต่ทางตัน
ผมอยู่ที่นี่เพื่อจะแสดงให้เห็นว่ามันมีทางออก
การตัดสินใจ = โชคชะตา
ความอิสระจากภายใน การเติมเต็ม ความสบายใจ ความสุขที่มนุษย์แทบทุกคนได้เพียงแค่ฝัน แต่คุณจะรู้ว่ามันไม่ใช่ความฝัน
“ผมไม่อยากที่จะต้องเห็นคนอื่นต้องทรมานจากความผิดหวังในความรัก เพราะผมรู้ว่ามันรู้สึกยังไงเมื่อเวลาที่เราเจ็บจากรักเป็นพิษ”
“แม้ในวันนี้ผมจะมีความรักที่ล้นสามารถให้ทุกคนได้และมีความเข้มแข็งจนแทบไม่รู้จักความเสียใจ แต่บอกได้เลยว่าผมไม่เคยลืมว่าการต้องมีชีวิตอยู่ในความหดหู่ เศร้า กังวล เกี่ยวกับอนาคตความสัมพันธ์ที่ผ่านมามันเป็นยังไง”
มีเหตุผลหลัก 3 อย่างในการเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมา
1. เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึงงานเขียนนี้ที่สามารถนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาได้ทันทีจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้
หนังสือเล่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อที่จะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยวิเคราะห์จากข้อมูลที่จำเป็นเพื่อประกอบการตัดสินใจที่สร้างโอกาสที่ดีสูงสุด
ความรู้คือพลัง แต่ความจริง พวกเรารู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์ถ้าเราไม่ลงมือทำ หนังสือเล่มนี้จะมีแผนการปฎิบัติให้คุณเพื่อคำว่ารักตัวเองด้วย
2. เราจะมีการตัดสินใจอย่างฉลาด สมเหตุสมผลได้ยังไงถ้าเรายังมีความกลัว แม้ว่าเราจะรู้ว่าต้องทำอะไร แต่ถ้าความกลัวกันไม่ให้เราได้ทำในสิ่งที่ควรทำ การลงมือทำเมื่อเรากลัว จะทำให้การตัดสินใจผิดพลาดสูง ซึ่งผมเชื่อว่าเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยทีละขั้นตอนของหนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการเอาชนะความกลัวอย่างเป็นระบบ
ไม่มีใครสามารถที่จะทำนายอนาคตความสัมพันธ์ของเราว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้ถูกต้องตรงในทุกๆรายละเอียด
แต่เมื่อเกิดพายุหิมะลูกใหญ่เข้ามาหาเรา เราอยากที่จะเป็นคนที่อยู่ข้างนอกแล้วแข็งตาย หรือเป็นคนที่อยู่ในบ้านที่อบอุ่นอย่างปลอดภัย
3. หนังสือเล่มนี้ ตั้งใจที่จะปกป้องคุณไม่ให้เป็นเหยื่อจากคนที่ใช้ความรักของคุณเป็นข้อต่อรองกับผลประโยชน์ที่เขาต้องการ ไม่มีใครในโลกนี้ (แม้แต่พี่น้อง)จะแคร์เราได้เท่าพ่อแม่ คนอื่นๆไม่จำเป็นที่จะต้องคอยพยายามทำทุกสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขสูงสุด
หนังสือเล่มนี้จะให้ข้อมูลที่คุณต้องการเพื่อที่จะป้องกันคุณจากหมาป่าที่อยู่ในคราบแกะรอเขมือบคุณ หนังสือเล่มนี้จะให้แนวคิดและเงื่อนไข ที่จะช่วยคุณมองออกถึงความจริงใจจากคู่รักผู้ที่จะพยายามทำเพื่อให้คุณมีความสุขอย่างที่คู่ควรจริงๆ
ที่สำคัญ การทบทวนสถานการณ์ปัจจุบัน และเป้าหมายจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเจอคนที่ใช่

นฤพนธ์บอกว่าเนื้อหาภายในเต็มไปด้วยความเข้มข้นและบทความที่เชื่อว่าเป็นหมัดเด็ดที่จะกระแทกใจและตรงกับ อินไซซ์ของผู้อ่าน ซ้ำยังช่วยขจัดความอ่อนแอภายในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น how to ต่างๆ ที่ช่วยสร้างความเข้มแข็ง กฎต่างๆ ในการดึงดูดคนที่ใช่ และหัวข้อต่างๆ อีกมากมายที่จะช่วยปลดล๊อกสิ่งติดลบภายในใจของเขาเหล่านั้น

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “คนที่ไม่เจ็บคือคนที่พร้อมรับมือการขึ้นลงของความสัมพันธ์ เมื่อเราเข้าใจรูปแบบเหล่านี้ เราจะสามารถที่จะจัดการลงมือทำอะไรโดยไม่มีความกลัวเป็นตัวกำหนด ไม่ใช่เพราะปฏิเสธที่จะกลัวแต่เพราะมีความรู้และความเข้าใจว่าอะไรคือการตัดสินใจที่ดีที่สุดและเมื่อพร้อมจะรับมือความรักนั่นแสดงว่าเราพร้อมที่จะรักนั่นเอง”