1

ECF เผยแนวโน้มตลาดเฟอร์นิเจอร์สดใส ยอดขายพุ่งตั้งแต่ต้นปี วางแผนรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ECF เผยแนวโน้มตลาดเฟอร์นิเจอร์สดใส ยอดขายพุ่งตั้งแต่ต้นปี วางแผนรุกธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่ง COSTA เจาะลูกค้าทุกกลุ่มทั่วไทย พร้อมขยับสัดส่วนรายได้ AEC เพิ่ม 10% ปรับโครงสร้างธุรกิจขึ้นแท่นโฮลดิ้ง คอมพานี ลุย 3 ธุรกิจหลัก เฟอร์นิเจอร์ พลังงาน ร้านค้าปลีก มั่นใจผลประกอบการดีต่อเนื่อง
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายในประเทศของทุกแบรนด์มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากการขยายฐานลูกค้าครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ และกำลังซื้อในประเทศปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศคำสั่งซื้อเริ่มกลับมาดีอีกครั้ง ซึ่งบริษัทยังคงได้รับออเดอร์จากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่นอย่างสม่ำเสมอ และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มประเทศ AEC เพิ่มขึ้นที่ 10 % จากเดิม 5%

“ในปีนี้เราจะใช้แบรนด์ COSTA ในการรุกตลาดทั่วประเทศ ผ่านช่องทางร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในภูมิภาค โดยจะมีการออกและเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ๆ ให้มีความหลากหลาย ดีไซน์สวยงาม ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่ม และขยายสาขาภายใต้แบรนด์ ELEGA อีก 3 สาขาจากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 16 สาขา เปิดสาขาร้าน FINNA HOUSE จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ลิขสิทธิ์ DISNEY เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันมี 5 สาขา และบริษัทยังมีโอกาสสร้างการเติบโตของยอดขายจากออร์เดอร์ที่มากขึ้นตามการขยายสาขาของลูกค้ากลุ่มโมเดิร์นเทรด”นายอารักษ์กล่าว
นอกจากนี้บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย เพื่อให้เหมาะสมคล่องตัวและสอดคล้องกับแกนการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยมีรูปแบบการประกอบธุรกิจในลักษณะโฮลดิ้ง คอมพานี ประกอบธุรกิจด้านการลงทุน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าจะช่วยสร้างผลประกอบการที่ดีขึ้นแก่บริษัท สำหรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทจะประกอบไปด้วย 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ECF ธุรกิจหลัก “เฟอร์นิเจอร์” ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ภายใต้แบรนด์ ELEGA FINNA HOUSE “อีซีเอฟ พาวเวอร์” (ECF-P) ธุรกิจพลังงานทดแทน และ “อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์”(ECFH) ธุรกิจร้านค้าปลีก
ล่าสุดบริษัทย่อย บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด (“ECF-P”) ได้ลงทุนในบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ คือ บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจด้านโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ECF-P และ FPI ซึ่งได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า ไพร์ซ ออฟ วู้ด กรีน เอนเนอร์จี (PWGE) จำกัด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ขนาดกำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว จากการขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ปีละไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
สำหรับรายได้รวมในปีนี้คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งรายได้จากธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าจะเติบโตที่ 10 % ประกอบกับรายได้ต่างๆ ที่จะทยอยรับรู้ในปีนี้จากบริษัทย่อย ECF-P และ ECFH ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้รายได้ของบริษัทมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของกำไรสุทธิ คิดเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.0535 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 30,432,193.68 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล 11 พ.ค. 60 กำหนดจ่ายเงินปันผล 26 พ.ค. 60
ขณะเดียวกันบริษัทได้ตั้งเป้าหมายระยะกลางใน 3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ รายได้จากธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ (ECF) 65% อีซีเอฟ พาวเวอร์ (ECF-P) ธุรกิจพลังงานทดแทน 30% อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ (ECFH) ธุรกิจร้านค้าปลีก 5 %