1

“หัวเว่ย” ร่วมงาน CeBIT 2017 มุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล

– ก้าวนำเทคโนโลยีไอซีทีใหม่ๆ เพื่อการพลิกโฉมธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล

หัวเว่ย ผนึกกำลังพันธมิตร 100 ราย ขนกลยุทธ์และโซลูชั่นไอซีทีร่วมจัดแสดงที่งาน CeBIT 2017 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคมนี้ ภายใต้หัวข้อ “Leading New ICT, The Road to Digital Transformation” (ก้าวนำเทคโนโลยีไอซีทีใหม่ๆ เพื่อการพลิกโฉมธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล) ณ บูธจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร ในโซน C30 ฮอลล์ 2 ภายในศูนย์นิทรรศการ Hannover Exhibition Center โดยหัวเว่ยจะนำเสนอโซลูชั่นนวัตกรรมไอซีที ครอบคลุมพื้นที่จัดแสดงธุรกิจ เทคโนโลยี และระบบนิเวศ รวมถึงแบ่งปันแนวทางปฏิบัติและวิธีการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกในการขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัล

http://photos.prnasia.com/prnvar/20170320/0861702579

บรรยายภาพ – หัวเว่ย จับมือพันธมิตร 100 ราย จัดแสดงนวัตกรรมล่าสุดที่งาน CeBIT 2017

กลยุทธ์และเป้าหมายของกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยนั้น มีความสอดคล้องกับธีม “d!conomy – no limits” ของงาน CeBIT 2017 นั่นคือการนำเสนอแนวทางในการบริหารจัดการเศรษฐกิจและสาธารณะ สังคมดิจิทัล ตลอดจนกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ให้แก่ผู้กำหนดนโยบาย

แพลตฟอร์มและระบบนิเวศ สองพลังขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัล

ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยตั้งอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมให้เป็นดิจิทัล โดยบริษัทได้เปิดตัวกลยุทธ์ “แพลตฟอร์ม + ระบบนิเวศ” ที่งานนี้

เหยียน ลี่ต๋า ประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า “การกำหนดตำแหน่งทางธุรกิจของหัวเว่ยนั้น ให้ความสำคัญไปที่การเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดเพื่อขับเคลื่อนสังคมดิจิทัล เพื่อการพัฒนาสังคมอัจฉริยะ และเพื่อการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมสู่ยุคดิจิทัล เรานำเสนอกลยุทธ์ ‘แพลตฟอร์ม + ระบบนิเวศ’ ที่เป็นผลิตผลจากการลงทุนจำนวนมากในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง, อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT), บิ๊กดาต้า, บรอดแบนด์มือถือ และ SDN เพื่อสร้างแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานไอซีที ที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่น ปลอดภัย และคล่องตัว โดยเราช่วยเหลือลูกค้าให้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการสร้างระบบนิเวศแบบ win-win และประสานงานกับพันธมิตรอย่างครอบคลุม”

ไดอาน่า หยวน ประธานฝ่ายการตลาดและการขายโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย ได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วง CEO Keynote ของงานประชุม CeBIT Global Conferences โดยเธอแสดงความคิดเห็นว่า “‘แพลตฟอร์ม’ ของเราสะท้อนให้เห็นถึงการผนึกกำลังกันของ cloud-pipe-device ขณะที่ ‘ระบบนิเวศ’ ของเรานั้นเน้นให้ลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง และมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หัวเว่ยดำเนินกลยุทธ์ ‘แพลตฟอร์ม + ระบบนิเวศ’ และร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยให้พวกเขาปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล โดยอาศัยประสบการณ์และศักยภาพที่แข็งแกร่งและเข้มข้น ซึ่งหัวเว่ยได้รับมาจากการพลิกโฉมธุรกิจของเราเองให้เป็นดิจิทัล”

ในงาน CeBIT 2017 หัวเว่ยยังได้เปิดตัวโครงการ Global OpenLab Program เพื่อส่งเสริมการใช้กลยุทธ์ “แพลตฟอร์ม + ระบบนิเวศ” โดยโครงการนี้จะเป็นการรวมตัวกันของพันธมิตรทางธุรกิจชั้นแนวหน้าเพื่อสร้างขีดความสามารถด้านต่างๆ ให้รองรับการคิดค้นโซลูชั่นนวัตกรรมเฉพาะอุตสาหกรรม อันเป็นรากฐานของระบบนิเวศไอซีที ซึ่งจะขับเคลื่อนสังคมอัจฉริยะในอนาคต หัวเว่ยเตรียมแผนตั้ง OpenLabs เพิ่มอีก 15 แห่งในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ ด้วยเงินลงทุนรวม 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และวางแผนเปิด OpenLabs ให้ครบ 20 แห่งทั่วโลกภายในสิ้นปี 2562

นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีรูปแบบใหม่ ร่วมกับพันธมิตร 100 ราย บนพื้นที่จัดแสดง “ธุรกิจ”, “เทคโนโลยี” และ “ระบบนิเวศ”

หัวเว่ย จัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นไอซีทีล้ำสมัย รวมไปถึงเรื่องราวความสำเร็จ ณ พื้นที่จัดแสดง “ธุรกิจ”, “เทคโนโลยี” และ “ระบบนิเวศ” ภายในงาน CeBIT 2017

โซน “ธุรกิจ” เป็นพื้นที่จัดแสดงโซลูชั่นของหัวเว่ยที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถพลิกโฉมธุรกิจสู่ดิจิทัล พร้อมนำเสนอเรื่องราวความสำเร็จใน 7 อุตสาหกรรม ประกอบด้วย เมืองอัจฉริยะ การเงิน การผลิต ไฟฟ้า คมนาคม สื่อ และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ส่วนโซน “เทคโนโลยี” จัดแสดงโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีรูปแบบใหม่ของหัวเว่ย ซึ่งเกิดจากการประสานการทำงานของ “cloud-pipe-device” โดยโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวนี้เป็นการผนวกรวม 7 เทคโนโลยีแกนกลาง ได้แก่ IoT แบบปลอดภัย, ระบบคลาวด์แบบเปิด, โครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล, เครื่องข่ายแบบปลอดภัยที่ติดตั้งอยู่บนคลาวด์ทั้งหมด, การสื่อสารด้วยคลาวด์, การสื่อสารไร้สายระดับองค์กร และบริการต่างๆ ทั้งนี้ การจัดแสดงทั่วบูธของหัวเว่ยเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและพันธมิตรชั้นนำอย่าง SAP, Accenture, Infosys, T-Systems, KUKA, Hexagon, Thales, Alstom และ Siemens

หัวเว่ยและพันธมิตรเตรียมประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่ พร้อมถ่ายทอดแนวทางพลิกโฉมธุรกิจสู่ดิจิทัล

บริษัทกว่า 1 ใน 3 ในทำเนียบ Fortune 500 วางใจเลือกหัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการแปลงโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งกว่า 40% ของบริษัทเหล่านี้ติด 100 อันดับแรกของโลก โดยในงานนี้ หัวเว่ยและพันธมิตรอุตสาหกรรมชั้นนำจะประกาศโซลูชั่นที่เกิดจากความร่วมมือ และถ่ายทอดเรื่องราวความสำเร็จดังต่อไปนี้

– ด้านการสร้างเมืองอัจริยะ หัวเว่ยได้ร่วมมือกับ Veolia ในการพัฒนาโซลูชั่นบริหารจัดการอุทกภัย “Storm Water and Flood Management Solution” บนเครือข่าย NB-IoT เพื่อจัดเตรียมมาตรการฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้ร่วมมือกับ Frequentis ในการพัฒนาระบบนิเวศแบบเปิดสำหรับโซลูชั่นเมืองอัจริยะที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น หัวเว่ยยังร่วมมือกับ Honeywell ในการพัฒนาโซลูชั่นอาคารอัจริยะที่ทำให้สามารถบริหารจัดการอาคารได้อย่างชาญฉลาด พร้อมลดการใช้พลังงาน

– ด้านอุตสาหกรรมการเงิน Accenture จะร่วมแบ่งปันโซลูชั่นบิ๊กดาต้าทางการเงินบนแพลตฟอร์มบิ๊กดาต้าของหัวเว่ย ขณะที่หัวเว่ยและ Infosys ได้ร่วมกันเปิดตัวโซลูชั่น Finacle@Kunlun ที่จะช่วยภาคธนาคารในการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานไอทีและแอพพลิเคชันระดับ upper-layer

– ด้านอุตสาหกรรมพลังงาน หัวเว่ยได้จับมือกับ SAP ในการเปิดตัวโซลูชั่น Advanced Metering Infrastructure (AMI) อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าเมืองเทียนจิน หรือ State Grid Tianjin Electric Power Company ในการสร้างโซลูชั่นเครือข่ายพลังงานไร้สาย เพื่อช่วยบริษัทด้านพลังงานไฟฟ้าในการจ่ายและวัดกระแสไฟแบบอัตโนมัติ

– ด้านอุตสาหกรรมคมนาคม หัวเว่ยและ Indra ผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมคมนาคมได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระดับโลก เพื่อพัฒนาโซลูชั่นไอซีทีด้านคมนาคมที่ครบวงจร

– ด้านอุตสาหกรรมสื่อ หัวเว่ยและ Sony ได้ร่วมกันสร้างโซลูชั่น Serial Digital Interface (SDI) matrix IP เพื่อพัฒนาอุปกรณ์กระจายเสียงและระบบวิดีโอบนมือถือสำหรับบริษัทวิทยุและโทรทัศน์ทั่วโลก

– ด้านคลาวด์สาธารณะ ผู้ใช้บริการคลาวด์ Open Telekom Cloud ที่พัฒนาโดยหัวเว่ยและ Deutsche Telekom เช่นองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (CERN) จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การใช้งานโซลูชั่นดังกล่าวในโครงการ Helix Nebulae Science Cloud ขณะที่ผู้ผลิตระบบไฟสัญชาติเยอรมันอย่าง SLV ก็ได้ประกาศจะนำแพลตฟอร์ม IoT ที่มาจาก Open Telekom Cloud มาใช้เพื่อจัดทำโครงการบ้านอัจฉริยะ

ในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่ยั่งยืน ตลอดจนสร้างพันธมิตรทางการค้าและอุตสาหกรรม ชุมชนโอเพนซอร์ส และแพลตฟอร์มนักพัฒนาต่อไป

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวเว่ยในงาน CeBIT 2017 สามารถรับชมได้ที่ http://e.huawei.com/topic/cebit2017-en/index.html

เกี่ยวกับ หัวเว่ย

หัวเว่ย เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.huawei.com/