1

‘วีระนันท์’ มั่นใจก่อสร้าง – ขนส่งชายแดน โตต่อเนื่อง พร้อมดันนักขับรถบรรทุกหญิงให้เป็นที่ยอมรับในวงการรถใหญ่ไทย

‘วีระนันท์’ มั่นใจก่อสร้าง – ขนส่งชายแดน โตต่อเนื่อง พร้อมดันนักขับรถบรรทุกหญิงให้เป็นที่ยอมรับในวงการรถใหญ่ไทย

· สั่งรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ใหม่ เกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot 6 คัน รองรับแผนการขยายงาน

· เชื่อมั่นว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องอีก 20% จากปีที่แล้วที่เติบโตมากกว่า 10%

บริษัท วีระนันท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ประจำภาคเหนือตอนล่าง เดินหน้าขยายงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขนส่งวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ และสินแร่จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเชื่อมั่นว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องประมาณ 20% จากปีที่แล้วที่เติบโตมากกว่า 10% จากธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะขยายงานในปีนี้ โดยล่าสุดได้สั่งซื้อรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ใหม่ ที่มาพร้อมด้วยเกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot จำนวน 6 คัน เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางธุรกิจ

นายวีรนันท์ จันทร์ครุธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีระนันท์ จำกัด เปิดเผยว่า “เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจของเรานั้นจะยังคงเติบโตอย่างมั่นคงเพราะธุรกิจการขนส่งวัสดุก่อสร้าง และปูนซีเมนต์ข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง เราจึงตัดสินใจสั่งซื้อรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ใหม่ ที่มาพร้อมด้วยเกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot เพราะได้ทดลองสมรรถนะของรถรุ่นนี้แล้วสามารถตอบโจทย์การบริหารฟลีทรถของบริษัทฯ ที่ต้องการรถบรรทุกที่มีสมรรถนะสูง และสามารถใช้ได้ทั้งการขนส่งระยะสั้น และทางไกล รวมถึงขับขี่ขึ้นเขาซึ่งเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างอันตราย และที่สำคัญคือให้พนักงานขับรถของเราได้รับความสะดวกสบาย ขับขี่ง่าย นำพาสินค้าไปส่งได้ทันเวลา อีกทั้งบริการหลังการขายของยูดี ทรัคส์ ที่ครอบคลุมและกระจายอยู่ทั่วประเทศทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยสนับสนุนธุรกิจของเราได้” นายวีรนันท์ กล่าว

นายวีรนันท์ กล่าวเพิ่มว่าสาเหตุที่ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นเพราะการให้บริการอย่างมีคุณภาพในราคาที่สามารถแข่งขันได้ โดยบริษัทฯ มีมาตรการคุมเข้มพนักงานขับรถให้มีระเบียบวินัยพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าอย่างมีความรับผิดชอบ

“เรากำชับพนักงานทุกคนต้องคำนึงถึงความปลอดภัย จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคือห้ามขับเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และก่อนขึ้นรถจับพวงมาลัย ทุกคนต้องผ่านการเป่าเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ที่ต้องเป็นศูนย์เท่านั้น ซึ่งผลที่ตามมาคืออุบัติเหตุไม่เกิด สินค้าไปถึงมือลูกค้าตรงเวลา พนักงานไม่เครียดและไม่เหนื่อยกับการทำงาน และสุดท้ายเกิดความประหยัดในทุกด้าน ไม่ว่าการบำรุงรักษาและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และเราได้ปลูกฝังกับพนักงานทุกคนว่าขอให้คิดว่าเป็นกิจการของตนเอง ทุกคนก็จะดูแลสินค้าเสมือนเป็นของตัวเอง ทำให้ลูกค้าพึงพอใจในบริการและเรียกใช้เราอย่างต่อเนื่อง” นายวีรนันท์ กล่าว

“อีกทั้งเรายังผลักดันนโยบายสร้างอาชีพพนักงานขับรถบรรทุกหญิง เพื่อให้ตลาดแรงงานยอมรับความสามารถของผู้หญิงว่าสามารถขับรถบรรทุกใหญ่ได้ เป็นการสร้างมิติใหม่ของตลาดแรงงานพนักงานขับรถบรรทุกที่จะมีแรงงานผู้หญิงเข้าสู่ตลาดเช่นเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ โดยบริษัทฯ มีนโยบายเชิญชวนผู้หญิงเข้าร่วมงานกับบริษัทฯ ในตำแหน่งรับพนักงานขับรถบรรทุก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองว่าสามารถทำงานขับรถบรรทุกได้เช่นเดียวกับผู้ชาย และโดยธรรมชาติของผู้หญิง จะมีความอดทนเป็นเลิศ และเคารพระเบียบวินัยขององค์กรอย่างเคร่งครัด ซึ่งการเลือกใช้รถบรรทุกที่มาพร้อมกับเกียร์กึ่งอัตโนมัติที่ขับง่ายก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมหวังว่าจะช่วยให้นโยบายนี้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันเรามีพนักงานขับรถหญิงแล้วเป็นจำนวน 3 คน” นายวีรนันท์ กล่าวเสริม

บริษัท วีระนันท์ จำกัด เป็นบริษัทผู้ให้บริการขนส่งวัสดุก่อสร้างมานานกว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นธุรกิจบริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกเพียงคันเดียว และได้ขยายธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันบริษัทฯ มีรถบรรทุกในฟลีททั้งสิ้นมากกว่า 200 คัน โดยได้รับสัญญาเข้าร่วมบริการขนส่งวัสดุก่อสร้าง และปูนซิเมนต์ และสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้เพราะปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ สร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มปูนซิเมนต์นครหลวงที่จะมอบหมายงานเพิ่มขึ้น

“ตอนที่เราเข้าร่วมงานกับกลุ่มปูนซิเมนต์นครหลวง เราพบว่างานเราได้รับมอบหมายมาอย่างไม่รู้จบ เพียงแต่เราจะต้องให้บริการที่ดี มีคุณภาพตรงตามที่ลูกค้าต้องการภายใต้ต้นทุนที่ลูกค้าสามารถรับได้ นี่คือหัวใจการทำธุรกิจของเรา” นายวีรนันท์ กล่าว

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงให้บริการขนส่งสินธุ์แร่ ให้แก่กลุ่มปูนซิเมนต์ไทยจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) มายังแหล่งผลิตของกลุ่มปูนซิเมนต์ไทยในประเทศไทย และขนส่งวัสดุก่อสร้างของกลุ่มปูนซิเมนต์ไทยไปยัง สปป. ลาว โดยคิดเป็นสัดส่วนธุรกิจประมาณ 30% ของธุรกิจรวม ส่วนที่เหลืออีก 70% เป็นธุรกิจที่ร่วมงานกับกลุ่มเฌอร่า และกลุ่มปูนซิเมนต์นครหลวง