1

ต้องขับรถ (แย่) ขนาดไหน ประกันชั้น 1 ถึงไม่รับเคลม

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้เป็นคำตอบของความคุ้มครองทุกสิ่งในการขับขี่ แล้วต้องขับแย่ขนาดไหน? ประกันฯ ชั้น 1 ถึงไม่อยากรับเคลม

หลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่า ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงที่สุด จะให้ความคุ้มครองคุณและรถของคุณสูงสุดในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นรถชนรถ หรือคู่กรณีมิใช่รถ ทั้งยังรวมถึงกรณีรถหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม ฯลฯ แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น ยังมีอีกหลายเคสที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ให้ความคุ้มครอง ถ้าคุณเป็นนักขับประเภทเหล่านี้

ขับขี้เมา ดื่มแหลก แจกค่าปรับประจำ โดยปกติกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม บริษัทประกันฯ ถือว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่เอง ไม่รับเคลม
ขับซิ่งสิงห์จ้าวถนน พวกนี้ชอบเอารถยนต์ไปใช้ผิดประเภท เช่น แข่งรถตามท้องถนน หรือแม้แต่ในสนามแข่ง ถือเป็นการใช้รถผิดประเทและขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ประกันไม่รับเคลมหากเกิดอุบัติเหตุ ควรเปลี่ยนโหมดไปขับรถ Formula 1
ขับไร้ใบขับขี่ กรณีที่ผู้ทำประกันให้ผู้อื่นยืมรถไปโดยที่ผู้ที่ยืมรถไปใช้นั้นไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือถูกตัดสิทธิ์ในการขับขี่ตามกฎหมาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นและบริษัทประกันฯ ตรวจสอบพบข้อเท็จจริงนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความคุ้มครองได้
ขับไปลากไป ชอบเอารถไปใช้ลากจูงรถเสียคันอื่นเข้าอู่ เข้าข้างทาง หรือขนย้ายสิ่งของ จนเครื่องยนต์เกิดความเสียหายโดยไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ แบบนี้ประกันขอบาย นอกเสียจากว่าได้เพิ่มความคุ้มครองในส่วนนี้อยู่ก่อนแล้ว
ขับแบกน้ำหนัก พวกชอบบรรทุกของไว้บนรถมากเกินพิกัด ใช้รถผิดประเภท จดทะเบียนส่วนบุคคลไว้ แต่เอาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ จนทำให้รถเกิดความเสียหาย บริษัทประกันฯ ถือว่าความเสียหายนั้นเกิดจากความประมาทของผู้เอาประกัน ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ
ขับปีละหน/ ไม่ยอมขับ ชอบจอดรถทิ้งเอาไว้โดยไม่ใช้เป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งรถยนต์นั้นก็ไม่ได้ต่างจากสิ่งของอื่นๆ หากไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานานก็จะเกิดความเสื่อมความเสียหายได้ บริษัทประกันฯ จะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากกรณีนี้ เว้นเสียแต่ว่าการขาดการใช้รถยนต์นั้นเกิดจากทางบริษัทประกันภัยเอง
ขับไม่รักรถ พวกขับอย่างเดียวไม่เคยเหลียวแลว่าบางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่นจะเสื่อมสภาพ ถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือไม่ กรณีเครื่องพัง หรือยางแตกยางรั่วที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ประกันชั้น 1 ไม่รับเคลมเช่นกัน (นอกจากจะซื้อความคุ้มครองเพิ่ม)
ขับเคลมแหลก ปีหนึ่งๆ มีการเคลมเกิน 200% ของเบี้ยประกันสุทธิ (มากกว่า 2 ครั้ง /ปี) โดยมักเป็นฝ่ายผิด และมีค่าเสียหายเกินกว่า 200% ของค่าเบี้ยประกันสุทธิ แบบนี้บริษัทประกันฯ สามารถปรับค่าเบี้ยประกันให้สูงขึ้นได้ในปีต่อไป ให้เปลี่ยนประเภทการรับประเป็นเป็นประกันชั้นที่ลดหลั่นลงมา เช่น จากชั้น 1 เป็นชั้น 2+ ที่น่ากลัวก็คือประวัติการขับขี่ของคุณมีสิทธิ์โดนแบล็คลิสต์ หรืออาจถึงขั้นถูกบริษัทประกันฯ เซย์กู๊ดบายให้ไปทำประกันฯ กับที่อื่นเลยก็ได้
ขับชนเละ นักขับจอมประมาท มักขับรถไปชนจนเกิดความเสียหายบางส่วน ที่อาจจะยังซ่อมไหวอยู่ โดยค่าซ่อมนั้นไม่เกิน 70% ของทุนประกัน บริษัทประกันฯ จะจัดซ่อมให้เหมือนเดิม หรือจะชดเชยเป็นเงินสดเพื่อให้ลูกค้าไปซ่อมเองก็ได้ กรณีแบบนี้ประกันอาจจะขอสิ้นสุดความคุ้มครองทันทีหลังจากชำระเงินค่าชดเชยให้ผู้เอาประกันแล้ว
ขับเสี่ยงภัย พวกชอบขับเข้าไปในเขตเกิดการจลาจล ความไม่สงบทางการเมือง สงครามกลางเมือง พื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยจากผู้ก่อการร้าย กระสุนปืน ระเบิด วัตถุปรมาณู นิวเคลียร์ กัมมันตภาพรังสี ฯลฯ จะถือว่าอยู่นอกเหนือจากความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ขับผิดกฎหมาย หากรถยนต์ที่เกิดเหตุนั้น เป็นรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุผิดกฎหมาย เช่น ปล้นทรัพย์ ขนยาเสพย์ติด เป็นต้น บริษัทประกันฯ จะไม่คุ้มครองรถยนต์คันนั้น
ขับออกนอกเขตคุ้มครอง บริษัทประกันฯ อาจจะปฏิเสธไม่รับเคลม หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นอยู่นอกอาณาเขตที่ให้ความคุ้มครอง โดยปกติจะหมายความถึงภายในประเทศไทยนั่นเอง ดังนั้น หากจะใช้รถยนต์เดินทางออกนอกประเทศก็ควรแจ้งบริษัทประกันฯ ก่อนเดินทาง เพื่อให้ออกกรมธรรม์ที่ครอบคลุมสำหรับทริปต่างประเทศของคุณ โดยคุณจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย แต่ราคาจะไม่สูงเท่ากับเบี้ยประกันภัยทั่วไป เพราะเป็นความคุ้มครองระยะสั้น ๆ เท่านั้น
ขับหัวหมอ หากเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ที่เป็นทรัพย์สินของเจ้าของคนเดียวกัน ซึ่งเจ้าของนั้นก็คือตัวผู้เอาประกันเองหรือของพ่อ แม่ บุตร ภรรยา บริษัทประกันฯ จะไม่จ่ายให้คู่กรณี ถือเป็นทรัพย์สินของบุคคลเดียวกัน ไม่ใช่บุคคลภายนอก และอาจจะมองว่าผู้เอาประกันนั้นจงใจสร้างสถานการณ์ทำลายทรัพย์สินตัวเอง เพื่อหาประโยชน์จากประกันภัย ในจึงไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้
การขับขี่รถยนต์อย่างระมัดระวังเป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก อย่าคิดว่าทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แล้ว จะสามารถเรียกเคลมเท่าไหร่หรืออย่างไรก็ได้ เพราะบริษัทประกันภัยรถยนต์เอง ก็มีสิทธิ์ปฏิเสธการให้ประกันภัยรถยนต์ของคุณได้เช่นกัน ต่อให้เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์แห่งใหม่ ก็ยังเสี่ยงโดนแบล็คลิสต์อยู่ดี เพราะมีการแชร์ข้อมูลถึงกันอยู่เสมอ

การใช้รถใช้ถนนอย่างไม่ประมาทจะช่วยลดอุบัติเหตุได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ควรเลือกความคุ้มครองจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ด้วยประกันภัยรถยนต์ จะประกันชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ หรือ ชั้น 3 กับ EasyCompare ก็ช่วยคุ้มครองให้คุณอุ่นใจ

ข้อมูลเพิ่มเติม :: https://www.easycompare.co.th/car-insurance/insurance-type-1